เงินเพียงเท่านี้ทำหัวใจให้มีความสุข
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2545 เวลา 8:10 น. ความยาว 27.44 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
| |
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

 

เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

เงินเพียงเท่านี้ทำหัวใจให้มีความสุข

 

         (ทอง ๓๐ บาทครับ) เออ ดีแล้ว ๆ วันนี้ตั้งปฐมฤกษ์ ตอนบ่ายวันนี้ประชุมทองคำ ใครจะได้มากน้อยเพียงไรรวมกันมาซี กำลังคนเดียวไม่พอ สองคนสามคนเพิ่มเข้าไป ยกคนเดียวไม่ได้ยกสองคนสามคนก็ยกได้นะ อาศัยความพร้อมเพรียงสามัคคี วันนี้จะรวมบรรดาพระสายกรรมฐานที่ไหน ๆ จะมาที่นี่ แถวพอมาถึงได้ก็มา นอกจากอยู่ไกล ๆ จริง ๆ ก็อาจไม่มา แต่นี้เห็นแล้ว จันทบุรีก็มาแล้ว เห็นหลายองค์เมื่อเช้านี้ ไกล ค้าง จากนี้ไปจันท์มันไกลกว่าไปเชียงใหม่ เชียงใหม่ ๖๑๖ กิโล อันนี้ดูเหมือนมัน (๗๐๐ กว่าครับ) นั่นแล้วไกลอยู่นะ นี่ก็มาเยอะหมายถึงสายกรรมฐาน เมื่อเช้านี้มองเห็นหลายองค์มาจากวัดต่าง ๆ

เราจะพยายามรวบรวมทองคำให้ได้ตามจุดมุ่งหมาย ซึ่งได้ประกาศไว้เรียบร้อยแล้วว่า คราวนี้มอบทองก็ให้ได้ ๕๐๐ กิโลในวันที่ ๑๐ ธันวา นี้ มอบแต่ละครั้ง ๆ ละ ๕๐๐ จนกระทั่งถึงจุดที่หมายที่เราประกาศไว้แล้วว่าให้ได้ ๑๐ ตัน อย่างไรต้องให้ได้ ๑๐ ตัน ไม่อย่างนั้นขายหน้าคนไทยเรา คนไทยทั้งประเทศหาทองในเวลาจำเป็นได้ทองไม่ถึง ๑๐ ตันนี้ขายหน้าทั่วประเทศไทยเลย หลวงตาบัวขายเป็นองค์แรก จมดินไปเลย ถ้าไม่อยากให้หลวงตาบัวจมดินบรรดาลูกศิษย์ลูกหาต้องฟื้นขึ้นมา ลากหลวงตาบัวขึ้นมาด้วยทองคำ เข้าใจไหมล่ะ ที่หลวงตาอุตส่าห์พยายามเต็มกำลังความสามารถนี้ก็เพราะเห็นแก่ชาติไทยของเรา คือทองคำเป็นหัวใจของชาติ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย จึงต้องได้อุตส่าห์พยายาม นี่ก็ได้ประกาศออกแล้วเวลานี้ว่า ทองคำเราในการช่วยชาติคราวนี้ให้ได้ ๑๐ ตัน เวลานี้ได้ ๕ ตันกว่าแล้ว ถ้ามอบในวันที่ ๑๐ นี้ก็เป็น ๕ ตัน ๕๐๐ กว่ากิโลแล้ว ก็ยังขาดอยู่อีก ๔ ตันกว่าก็จะครบ ๑๐ ตัน

ส่วนดอลลาร์เราเวลานี้ได้แล้ว ๗ ล้านแล้ว เข้าคลังหลวงแล้วยังไม่ถึง ๗ ล้านนะ ขาดเล็กน้อย แต่อยู่ในบัญชีที่ธนาคารนี้มากกว่านั้น มากกว่าที่กำหนดคือเข้าคลังหลวงแล้ว เพิ่มเข้าอีกรวมแล้วเป็น ๗ ล้านกว่าแหละเวลานี้ ต้องพยายามให้ได้นะ ต้องมีความพร้อมเพรียงสามัคคี ผนึกกำลังกันยกชาติของเราทั้งชาติ ต้องได้ ชาติไทยของเรายกขึ้นเป็นน้ำหนักทองคำเหลืองอร่ามจรดเมฆนู่น ใครมองมาที่ไหน ๆ เห็นหมด เวลานี้เมืองนอกเมืองนาเขาจ้องมาเป็นตาเดียวกันหมด มาดูเมืองไทยเราช่วยชาติตัวเอง ช่วยยังไงเขากำลังดูเวลานี้ เราจึงต้องได้หาทองคำมายกขึ้นให้เขาดูสูง ๆ เราจะยกทองคำขึ้นเหลืองอร่าม เขามาที่ไหน ๆ ให้เขามองขึ้นไปข้างบน แล้วเขามองอย่างนี้ดูได้หรือ เมืองไทยทั้งประเทศจม อู๋ย ดูไม่ได้ จมนี้คืออะไร ก็คือส้วมคือถาน เมืองไทยเราไม่ใช่เมืองส้วมเมืองถาน จะมายอมให้จมได้ง่าย ๆ เหรอ เมื่อลมหายใจของคนไทยทุกดวงยังหายใจฝอด ๆ อยู่แล้วจะจมไปไม่ได้ ว่างั้นเลย เอาขึ้นให้ได้

คราวนี้เป็นคราวสำคัญที่จะประกาศให้โลกภายนอกได้เห็นทั่วถึงกัน ในความรักชาติ ความเสียสละ ความพร้อมเพรียงสามัคคี เป็นผลขึ้นมาให้โลกภายนอกได้เห็นว่า ได้ทองคำน้ำหนัก ๑๐ ตันเป็นอย่างน้อย แล้วดอลลาร์เราก็ค่อนข้างแน่ใจ ยังไงจะต้องได้ถึง ๑๐ ล้าน เพราะเวลานี้ก็ได้ ๗ ล้านแล้ว กว่าทองคำเราจะถึง ๑๐ ตันนี้ ดอลลาร์ ๓ ล้านนี้ค่อนข้างแน่ใจ จะได้ ๑๐ ล้าน นี่ละจุดใหญ่ ส่วนเงินสดก็กระจายอยู่แล้ว พี่น้องทั้งหลายก็เห็นทั่วไปหมด ดูเอานะ เงินของพี่น้องทั้งหลายทุกบาททุกสตางค์ลงในนั้นหมดเลย ที่จะมาเข้าพุงหลวงตาบัวบาทเดียวไม่มี หลวงตาบัวยันได้เลยเทียว ขนาดนั้นละบริสุทธิ์ การนำพี่น้องทั้งหลายนำด้วยความเมตตา และนำด้วยความอิ่มพอ ภายในจิตใจพอทุกอย่างแล้ว ให้พากันเข้าใจอย่างนี้

นำด้วยความเมตตา นำด้วยความอิ่มพอ จึงไม่มีอะไรสำหรับเรา เราพูดจริง ๆ  เราอยากจะพูดว่า พี่น้องทั้งหลายไปหาดูซิน่ะ ส่วนรวมที่เอาเงินมารวมกันให้มีผู้ใดผู้หนึ่งหรือจุดใดจุดหนึ่งเป็นผู้รับไว้ เงินเหล่านี้จะบริสุทธิ์เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือจะรั่วไหลแตกซึมไปไหนบ้าง ยกนิ้วขึ้นเลยว่า รั่วไหลแตกซึมแน่นอนไม่มากก็น้อย นี้บอกว่าบาทเดียวไม่มีเลยหลวงตาบัว ขนาดนั้นละหลวงตาบัว เพราะเชื่อความบริสุทธิ์ของตัวเอง ไม่มีที่ลับที่แจ้ง ธรรมเปิดจ้าอยู่ตลอดเวลา อะไรควรไม่ควรจะรู้ทันที ๆ อะไรไม่ควรปัดออก อะไรควรพุ่ง ๆ เลย

นี่ละที่นำพี่น้องชาวไทยทั้งหลายคราวนี้ เพราะฉะนั้นจึงกล้าพูดได้ทุกอย่างไม่มีสะทกสะท้าน เพราะพูดตามหลักธรรมตามความจริงล้วน ๆ ที่เรียกว่าศาสนธรรมที่โลกตายใจได้ตลอดมา เรานำธรรมนั้นมาปฏิบัติตัวเองด้วย นำพี่น้องชาวไทยด้วย และทั่ว ๆ โลกก็เอาธรรมนี้ออกนำทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเราจึงพูดได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ที่ว่าเงินบาทนี่ก็ได้เคยเรียนให้ทราบแล้ว ที่นำเข้าซื้อทองคำ ๙๓๑ ล้านอันนี้ซื้อทองคำเข้าสู่คลังหลวงเรียบร้อยแล้ว อีก ๑๐ ล้านนั้นเราเอาไปซื้อดอลลาร์ เพราะดอลลาร์ที่จะนำเข้าสู่คลังหลวงตามทองคำเข้าไปยังไม่ครบ ๓แสน ขาด เลยไปคว้าเอาเงินในโครงการที่ผ่านมา ๑๐ ล้านมาซื้อดอลลาร์พอ ๓ แสนแล้วก็เข้าด้วยกัน รวมแล้วจึงเป็นเงินสด ๙๔๑ ล้าน นี่ละเงินสดของพี่น้องทั้งหลาย ๙๔๑ ล้านนี่เข้าสู่คลังหลวง นอกนั้นไปดูเอาตามถนนหนทาง ไปที่ไหนเห็นทั่วไปหมด

สำหรับคนทุกข์คนจนมีอยู่ทั่วไป นี่เราก็เปิดอกได้ทีเดียว เมื่อสองวันมานี้เราก็ส่งเงินไปแล้ว ความทุกข์ความจนนี่เรายกตัวอย่างนะ ครอบครัวนี้อยู่ดี ๆ หัวหน้าครอบครัวก็ไปหกล้มป่วย ลูกเต้าทั้งหลายก็เจ็บไข้ได้ป่วยออด ๆ แอด ๆ ทีนี้เงินก็ไม่มี ต้องครอบครัวอื่นเขามาช่วยจึงพอได้พ้นวันหนึ่ง ๆ บรรดาลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเขาก็เชื่อเรานั้นเองเขาถึงส่งมา เขาส่งมาอ่านรายการให้ฟังแล้วสลดสังเวชส่งปึ๋งให้เลย บอกว่าเราไม่มีเรามีเท่านี้ เอาเสียก่อน ส่งไปให้สองแสน เลยโอนไปเลย โอนไปแล้วก็บอกเดี๋ยวนั้นๆ บอกว่าให้รับทางโน้นทางนี้โอนแล้ว โทรศัพท์ถึงกันเลย ทางโน้นรับรองเรียบร้อยแล้ว สมบูรณ์แบบแล้ว อย่างนั้นแหละ

นี่หมายถึงเราช่วยคนทุกข์คนจน อย่างนี้เราจะระบุชื่อไม่ได้นะ เรารักษาศักดิ์ศรีกัน เข้าใจไหม ถ้าหนังสือพิมพ์เขาออกประกาศบ้างแล้วนั้น เราจะบอกก็ได้ ไม่บอกก็ได้ ส่วนที่เป็นเรื่องโดยเฉพาะอย่างที่ว่านี้เป็นความจำเป็น อย่างนี้ทั่วประเทศนะไม่ใช่เล็กน้อย เป็นล้าน ๆ ก็มีนะที่ช่วยอย่างนี้ ช่วยด้วยความจำเป็น ใครเมื่อจำเป็นไม่อาศัยคนอื่นจะอาศัยใคร คิดดูซิ ในครัวเรือนเรายังอาศัยกันทั้งครอบครัว ใครอยู่เป็นเอกเทศได้เมื่อไร ตั้งแต่พ่อแต่แม่ลงมา อาศัยกันโดยลำดับลูกเต้าหลานเหลน แม้หมู หมา เป็ด ไก่ ก็อาศัยเจ้าของเข้าใจไหม ทำไมคนทั้งประเทศไม่อาศัยกันเหรอ เวลาจนตรอกอย่างนี้จิตมันต้องวิ่งหาที่พึ่งที่อาศัยละซิ นี่ละให้คิดอย่างนี้ละพี่น้องทั้งหลาย

ทีนี้ก็ไม่พ้นจากธรรมอีกนะ มีธรรมเท่านั้นที่จะเจือจานให้ แบ่งความสุขให้แก่ผู้จำเป็น ผู้ขัดสนจนใจ ผู้ที่ได้รับความทุกข์มากได้บรรเทาความทุกข์ขึ้นมา ๆ ด้วยอำนาจแห่งความเสียสละ ความเสียสละคือการให้ทาน จึงยกเป็นเบอร์ ๑ พระพุทธเจ้าองค์ใดก็ตาม เลิศด้วยการให้ทานทั้งนั้นจึงสามารถนำโลกไปได้ ทานเป็นธรรมชาติที่นำโลก ความตระหนี่นำไม่ได้ ฉิบหายวายปวงไปหมดไม่มีอะไรเหลือ ตัวเองก็จม สมบัติทั้งหลายกองไว้เท่าภูเขาก็เป็นภูเขาเงินอยู่อย่างนั้น ไม่ได้เป็นภูเขาบุญถ้าไม่ได้นำออกไปเสียสละ ถ้านำไปเสียสละนั้นแหละจะติดตามไป สิ่งที่เราไม่ได้ไปนั้นเราใช้เฉพาะเวลาจำเป็น เมื่อมีชีวิตอยู่นี้เราก็ใช้เหล่านี้ไป ส่วนที่เราจะแบ่งให้เป็นสมบัติของใจที่จะติดตามตัวไปคือบุญ และบาปนี้ติดนะ ให้ระวังให้ดี

อันนี้แหละจะติด ท่านทั้งหลายให้จำให้ดีนะ นี่ได้พิจารณาปฏิบัติมาเต็มเหนี่ยวแล้วถึงได้มาพูด ไม่มีคำว่าโกหกพี่น้องทั้งหลาย อาจหาญชาญชัย ด้วยเอาอันนี้ออกกางทันทีเลย แต่ก่อนมันก็ไม่เคยรู้ เป็นยังไงมันถึงได้พูดถึงขนาดนี้ ท่านทั้งหลายฟังซิ กล้าหาญชาญชัยนักหรือที่โกหกพี่น้องทั้งหลายนั้นน่ะ เราปฏิบัติตัวเรา เราก็ไม่เคยโกหกเรา เคารพเทิดทูนธรรมของพระพุทธเจ้าจนเอาเป็นเอาตายเข้าว่าเลย การปฏิบัติของเราถึงได้ผลเข้ามาจนเป็นที่พอใจ แล้วนำพี่น้องทั้งหลายเวลานี้นำด้วยอรรถด้วยธรรม ที่เป็นความบริสุทธิ์ผุดผ่องเลิศเลอของโลกนั่นเอง นี่ละธรรม ธรรมทานสำคัญมากนะ พระพุทธเจ้าสอนให้รู้จักทุกสิ่งทุกอย่าง การให้ทานก็รู้ขึ้นมา การรักษาศีลรู้ขึ้นมาจากธรรมทาน ธรรมทานการให้ทานธรรม

แล้วทีนี้ศีลก็รู้ ทานก็รู้ การภาวนาก็รู้ การรู้จักพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงสำหรับแก้ไขตัวเอง ให้ออกจากสิ่งชั่วช้าลามกทั้งหลาย ที่เป็นภัยแก่ตัวเองนั้นก็เป็นธรรม แล้วก็รู้ ๆ ไปก็แก้ไขกันไปอย่างนั้น อยู่เฉย ๆ จะให้มันดี มันไม่ดีนะมนุษย์ ไม้ทั้งต้นนี้จะว่าเป็นไม้เนื้อแข็ง ไม้ดีขนาดไหนก็ตาม เอามาวางเป็นซุงก็ซุงทั้งท่อน ถ้าไม่เอามาเลื่อยมาไสกบ มาเจาะมาไชอะไรเรียบร้อย แยกออกทำประโยชน์ประเภทนั้น ๆ แล้วไม้ท่อนนี้จะไม่เกิดประโยชน์อะไร นี้คนชื่อแต่คน ชื่อฟากฟ้าดี ๆ ก็ชื่อเถอะ อย่างในคุกในเรือนจำ ชื่อนางสวรรค์ ชื่อนายบุญมา ชื่อนายพรหม เหล่านี้ไปถาม มันอยู่ในคุกนั้นละ แล้วทำไมถึงต้องมาติดคุกนี้ล่ะชื่อขนาดนั้นแล้ว เขาหาว่า นู่นน่ะฟังซิ มันยอมรับเมื่อไรกิเลส ไม่ยอมรับตัวนะ

มันไม่สำเร็จด้วยชื่อเฉย ๆ นะ ชื่อตั้งไว้เป็นชื่อเป็นนามพอได้รู้จักกัน ไอ้หมู ไอ้หมา ไอ้เป็ด ไอ้ไก่ ก็ไม่เห็นเป็นไร จะเป็นไรก็เราไม่ได้เป็นเป็ดนี่วะ เป็นแต่ชื่อเฉย ๆ ปฏิบัติตัวของเราให้ดี ใครจะว่าอะไรก็ตามขอให้ดีเถอะ ถ้าเจ้าของไม่ดีแล้ว แต่งตั้งแต่ภายนอกไม่เกิดประโยชน์อะไรนะ เวลานี้ชาติไทยของเรากำลังเป็นบ้าตั้งชื่อกัน ชื่อนี้ โอ๋ย.ฟากจรวด ดาวเทียมคนจมลงในนรก ไม่สนใจปฏิบัติปรับปรุงแก้ไขตัวเอง ไปหาปรับปรุงแก้ไขตกแต่งตั้งแต่ชื่อภายนอก อันนั้นสวยงามไพเราะเพราะพริ้ง ตัวเลวยิ่งกว่าเปรต มันไม่ได้สนใจตัวเองนะ ให้ฟังเสียงธรรม เสียงอย่างนี้แหละเสียงธรรม พูดอย่างตรงไปตรงมาเรียกว่าเสียงธรรม มาอ้อแอ้ ๆ ลูบหน้าปะจมูกอย่างนั้นไม่ได้ ไม่เรียกว่าธรรม ธรรมต้องสอนอย่างตรงไปตรงมา เชื่อถือได้เลย ผิดบอกว่าผิด ถูกบอกว่าถูก เรียกว่าธรรม แต่กิเลสไม่ได้ว่านะ อ้อมแอ้ม ๆ ประจบประแจงเลียแข้งเลียขา ภายในมันมีแต่พิษ คนที่เขาจะไปต้มกันเขาต้องประจบประแจงเลียแข้งเลียขา โอ๊ย.ไพเราะเพราะพริ้ง น้ำหวานทั่วประเทศไทยสู้ปากเขาไม่ได้นะ

นั่นละ ตัวที่เอาคนให้จม คนที่ตกนรกทั้งเป็นนี้มีมากเพราะปากหวาน ๆ ปากหวาน ๆ นี่ ปากกิเลสเป็นอย่างนั้นนะ ปากธรรมนี้มันหวานด้วยธรรม ตรงไปตรงมา สมมุติว่านี่จงอางนะบอกเลย ไอ้ตัวนั้นมันไม่ได้บอกว่าจงอาง มันบอกว่านี้เพลงลูกทุ่งนะ ว่าอย่างนั้น ส่วนธรรมบอกว่านี่จงอาง ลูกทุ่งพ่อแม่มึงยังไงไม่รู้จงอางเหรอ จะว่าอย่างนั้นภาษาธรรม คำว่าพ่อแม่มันเป็นยังไง มันหยาบเหรอ ยกโคตรมาใส่ ถ้ายังไม่รู้เอาโคตรมาดู นี่ละจงอางมันกัดคนตายมาเท่าไรแล้ว ความหมายว่าอย่างนั้น ธรรมท่านไม่ได้หมายนะว่าหยาบโลนอย่างโลกโกหกกันอยู่เวลานี้ มันเอาแต่สำนวนนิ่มนวลอ่อนหวานมาใช้ ส่วนสกปรกโสโครกมันเก็บไว้ปิดไว้หมด มันเอาแต่ของที่โลกยอมรับนี้มาประดับร้านไว้สวยงาม ไพเราะเพราะพริ้ง หลอกกันต้มตุ๋นกันทั่วโลกดินแดน มีแต่ภาษาหวาน ๆ หอม ๆ แหละ ภาษาธรรมไม่เคยต้มใคร เอามาแข่งกันตรงนี้ซิ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ขึ้นมาเคยต้มใครวะ พระสาวกอรหัตอรหันต์เป็น สรณํ คจฺฉามิ ของพวกเรานี้ต้มใคร แม้รายเดียวไม่เคยมี อันนี้เราก็มาพูดแทนพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เราก็ไม่เคยมีเจตนาแม้เม็ดหินเม็ดทรายว่าจะต้มใครเลย ผิดถูกชั่วดีจะว่าตรงไปตามเรื่องตามราว นี่ละพี่น้องทั้งหลายทราบ

เวลานี้เราพูดถึงการช่วยชาติบ้านเมือง ชาติบ้านเมืองจะขึ้นได้ด้วยความรักชาติ ด้วยความเสียสละ ความตระหนี่ขึ้นไม่ได้นะ จม จมแน่ ๆ ชาติไทยของเรา เมื่อคนทั้งชาติไทยจม เราจะมีเงินทองเท่าภูเขา เราก็จมไปด้วยเขานั่นแหละ เราจะวิเศษวิโสอะไร นี่แหละที่เรียกว่าอาศัยกัน คนเราเมื่อเกิดขึ้นมามันอาศัยแล้ว เด็กก็อาศัยผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็อาศัยเด็กอีก พ่อแม่ปู่ย่าตายายยิ่งงกงัน แก่เข้าไปมากเท่าไรยิ่งอาศัยลูก ๆ หลาน ๆ พยุง ๆ นั่นเห็นไหม อาศัยกันอยู่ตลอดเวลา ไม่มีคำว่าไม่พึ่งพิง มีพึ่งพิงทั้งนั้นแหละ อาศัยตลอดเวลา

นี่ละโลกเราอยู่ด้วยกันอาศัยกัน อะไรจะเป็นเครื่องสนองความอาศัยกัน การเสียสละ นั่นเห็นไหมล่ะ ลงจุดนี้ การเสียสละ การให้ทานเป็นเครื่องเยียวยาน้ำใจกัน เดินไปนี้เห็นเด็กยื่นเงินให้เด็ก ๕ บาท หรือ ๑๐ บาท เด็กจะยิ้มต่อหน้าให้เห็นเลย เป็นยังไง แล้วเอาความตระหนี่ถี่เหนียวไปใส่เด็กดูซิ ไปคว้าเอาอะไรกับเด็ก เด็กร้องไห้แง ๆ เขาถือมา เขาจะเอาไปอยู่ไปกินไปใช้ไปสอยของเขา แล้วผู้ใหญ่เราไปฉวยมับเอามานี้ เด็กร้องไห้ต่อหน้าต่อตา นี่คือความตระหนี่ ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เด็กก็จนอกจะแตก ถ้าเป็นความเสียสละยื่นเงินให้เด็ก ๕ บาท ๑๐ บาท ยิ้ม ๆ ใช่ไหมล่ะ นี่ละการให้ทาน ปันน้ำใจให้แก่กันมีแต่ความยิ้มแย้มแจ่มใส การเสียสละ ไปที่ไหนไม่เคยรู้จักโคตรแซ่กันก็ตามชื่อเสียงเรียงนามก็ตาม ช่วยเหลือปั๊บนี้ยิ้มทันทีเลย นี่ละการอำนาจแห่งการให้ทาน ไปที่ไหนเย็นไปหมด นี่ละพระพุทธเจ้าพาโลกดำเนิน ดำเนินด้วยการเสียสละ ด้วยการให้ทานกว้างขวาง ไม่ได้คับแคบตีบตัน ให้พากันจำเอาไว้นะ

นี่พูดถึงเรื่องที่ว่าเขาอาศัยเรา เรารีบไปสงเคราะห์เขาจะยิ้มแย้มขนาดไหน เงินจำนวนเท่านี้ละ หัวใจพองขึ้นทุกดวง ในครอบครัวนั้นหัวใจจะพองขึ้นด้วยความดีใจทุกดวง คุ้มค่าไหม เงินเพียงเท่านี้ทำหัวใจคนให้มีความสุข ความรื่นเริงบันเทิงขึ้นประเดี๋ยวใจเท่านั้นเอง นั่นเห็นไหม นี่ละอำนาจแห่งการให้ทาน ท่านทั้งหลายเห็นว่าสำคัญหรือไม่สำคัญ ถ้าไม่สำคัญ ใครเป็นคนบัญญัติขึ้นเรื่องทาน พระพุทธเจ้าบัญญัติทานขึ้นต้นเลย นี่ละ ทานบารมี ขึ้นต้น ไม่ว่าพระพุทธเจ้าพระองค์ใดขึ้นทานทั้งนั้น ๆ เพราะเห็นคุณค่าของการให้ทาน ให้ความสุขแก่กันและกัน ไปไหนติดพันกันไปได้ทั้งนั้น คนมีการเสียสละมีการให้ทาน ถ้าคนตระหนี่ถี่เหนียวแม้จะอยู่ในครัวเรือนเดียวกันแตกกันได้ ผัวเมียก็เหมือนกันแตกกันได้ถ้ามีแต่ความเห็นแก่ได้แก่ตัว มีความลักลอบ ไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อกันนี้แตกได้ทั้งนั้น ถ้าเป็นธรรมแล้วสมานปุ๊บทันที ๆ พากันจำเอานะ วันนี้พูดเพียงเท่านี้ก่อน

 

อ่านธรรมะหลวงตาวันต่อวัน ได้ที่ www.luangta.com

 


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก