หมาคาบบั้งข้าวหลาม (ก่อนปาฏิโมกข์)
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2525 เวลา 4:00 น. ความยาว 14.49 นาที
สถานที่ : วัดป่าบ้านตาด
ดาวน์โหลดเพื่อเก็บไว้ในเครื่อง
ให้คลิกขวาแล้วเลือก Save target as .. จาก link ต่อไปนี้ :
ข้อมูลเสียงแบบ(Win)

ค้นหา :

เทศน์อบรมพระก่อนปาฏิโมกข์ ณ วัดป่าบ้านตาด

เมื่อวันที่ ? พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๒๕

หมาคาบบั้งข้าวหลาม

อยู่กับหมู่กับคณะนี้ดูอยู่ตลอด ดูปัจจุบันของหมู่เพื่อนก็เพื่อดูอนาคตของหมู่เพื่อนในขณะเดียวกัน ดูความเจริญของหมู่เพื่อนกับความเสื่อมของหมู่เพื่อน ดูในปัจจุบันเพื่ออนาคต ประมวลเข้ามายังจุดนี้ นั่นแหละเป็นหัวหน้าหมู่เพื่อนมันเบาเมื่อไรหมู่เพื่อนดูซิ รู้ไหมว่าผมมีความใฝ่ใจกับหมู่เพื่อนมากขนาดไหน ดีไม่ดียังจะมากกว่าหมู่เพื่อนใฝ่ใจตัวเอง หมู่เพื่อนที่ยังไม่ทราบทางนี้ได้ว่าไปแล้ว ดุไปแล้ว ทางนั้นได้รู้ไหม เป็นความแน่ใจว่าสิ่งที่ดุที่เตือนที่อะไรนั้นไม่ผิด คือไม่ผิดจากหลักธรรมที่จะเข้าแก้ความผิดสิ่งนั้น ที่ได้ดุนั้น พิจารณาซิ

พวกท่านว่าเป็นของเล่นหรือกิเลส มันเอาจริงเอาจังกับสัตวโลกเท่าไร ไม่เคยมีกาลสถานที่เวล่ำเวลา ขณะจิตที่เคลื่อนไหวออกมานี้มานานเท่าไรแล้ว นี่ก็ไม่เคยคิดไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นมาแต่ก่อนถึงเรื่องฤทธิ์อำนาจของกิเลส ว่ามีความฉลาดแหลมคมขนาดไหน และเป็นภัยต่อหัวใจเรานี่ก่อนอื่น และต่อไปจนกระทั่งถึงหัวใจของโลก มีความสำคัญขนาดไหน มีอำนาจขนาดไหน พึ่งจะมาแน่ใจว่าเข้าใจในเพศของพระในเพศปฏิบัตินี้ จึงได้นำสิ่งเหล่านี้มาแสดงให้หมู่เพื่อนฟังให้ได้ปฏิบัติตน เพื่อหลุดออกจากห้องขังอันยิ่งใหญ่นี้ ๓ ภพนี้เสีย จะไม่มีอะไรมาเกี่ยวข้องพัวพัน ไม่ว่าแต่กิเลสละ ขึ้นชื่อว่าสมมุติว่างั้นเลย เพราะกิเลสก็เป็นสมมุติเหมือนกันในสามแดนโลกธาตุนี้

ทำอะไรมักจะเลยเถิด ๆ อยู่เสมอ เลยดุอยู่เรื่อย ๆ เตือนเรื่อย ๆ แต่ไม่ยอมจำอันนี้ซิ เป็นอะไรจึงไม่ยอมจำ ก็เพราะความนอนใจอันนั้น นิสัยอันนั้นมันเคยชิน นิสัยอันนั้นคืออะไรก็ไม่รู้อีก สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งเป็นภัยทั้งนั้นยังไม่รู้นี่จะว่าไง ทำสิ่งใดก็นอนใจกับสิ่งนั้นเสีย จมไปกับสิ่งนั้นเสีย ไม่กระดิกพลิกแพลงภายในจิตใจให้มีความรู้สึกระลึกได้เลยว่าผิดหรือถูกประการใด แม้ละเอียดเป็นผิดก็ไม่ใช่ของดี ดูเสี้ยนเล็ก ๆ เท่านั้นจนมองหาไม่เห็นด้วยตาเนื้อมองไป มันทิ่มเข้าไปในอวัยวะของเราเป็นยังไง เจ็บไหม ผิดปกติไหมร่างกายของเราเมื่อถูกทิ่มแทงด้วยเสี้ยนอันละเอียด

แม้ที่สุดผงเข้าตา เป็นยังไงใครก็ทราบทุกคนเรื่องผงเข้าตา ผงมันละเอียดขนาดไหน ทำไมจึงเป็นพิษเป็นภัยต่อตาได้ขนาดนั้น นี้เราเทียบเอาซิ ไม่ต้องพูดถึงต้นยูง(พะยูง)ต้นยางภูเขาทั้งลูกจะมาทับแหละถึงจะได้รับความเจ็บปวดแรงร้อน เพียงเสี้ยนอันละเอียดหรือผงละเอียดทิ่มแทงเข้าในอวัยวะนี้หรือเข้าตาเท่านั้นก็เป็นทุกข์พอแล้ว นี่เราเทียบเอาซิ เราจะคอยดูตั้งแต่กิเลสยกกองพลมาเท่าภูเขาเท่าต้นยุงต้นยางอะไรมาทับหัวใจเรา เราถึงจะว่าเรามีกิเลส เราถึงว่ามีข้าศึก ถึงจะตั้งท่ารับกัน ตั้งท่ารับอะไรภูเขาทั้งลูกมันทับลงไปแล้ว มีโอกาสอะไรมาตั้งท่ารับมัน นอกจากรับแบนเท่านั้น แบนไปหมดทั้งตัว รับมันก็รับแบบแบนนั่น นี่ก็เหมือนกัน กิเลสมันฟาดลงตรงไหนก็แหลกไปเหมือนกันกับภูเขานั่นแหละ ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นภัยทั้งนั้น

นี่พยายามแนะนำสั่งสอนหมู่เพื่อนให้ละเอียดลออเรื่องความคิดความอ่าน อย่าทำอะไรด้วยความล่ม ๆ จม ๆ เพราะเหตุแห่งความไม่มีสติ ไม่ดีเลย นี่สอนอยู่เสมอ ปฏิบัติเข้าไปซิ เมื่อสติปัญญาฟื้นตัวขึ้นมารู้ตัวขึ้นมาก็เหมือนกับเราลืมตาขึ้นมา ลืมตามาลืมเพื่อเห็นนี่ทำไมจะไม่เห็น สิ่งที่อยู่ในวิสัยของตาที่ควรจะเห็นได้มากน้อยเพียงใดต้องเห็นได้ ที่อยู่ในวิสัยของสติปัญญาที่ฟื้นตัวขึ้นมาได้มากน้อยเพียงไร ทำไมจะไม่รู้ทำไมจะไม่เห็น สิ่งที่เป็นภัยต่อจิตใจมีอยู่ในใจแท้ ๆ สติปัญญาก็ผลิตขึ้นมาจากนั่นทำไมจะไม่เจอกัน เพราะอยู่ด้วยกัน ถ้าเราจะผลิตขึ้นมาถ้าไม่นอนใจเสียอย่างเดียว

หากว่าแดนที่เราจมอยู่นี้ประเสริฐ โลกนี้ประเสริฐไปหมดแล้ว สามโลกธาตุนี้ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะหาธรรมมารื้อมาฟื้นให้ดียิ่งกว่านี้ เพราะนี้ก็เป็นที่พอใจแล้วสำหรับสัตวโลก พิจารณาซิ ทีนี้ความเห็นของผู้หลับตาจมอยู่ในกองมูตรกองคูถ กับผู้ที่เห็นด้วยความสว่างกระจ่างแจ้ง ด้วยความประเสริฐของจิตที่บริสุทธิ์นั้นต่างกันอย่างไรบ้าง คำว่าศาสดากับพวกเรานี้ต่างกันอย่างไร ฟังตรงนั้นซิ ถ้าไม่วิเศษจริง ๆ ก็ไม่สามารถจะมาสั่งสอนโลก และมาปราบกิเลสให้สัตวโลกได้ กิเลสเป็นภัยเป็นคุณ พระพุทธเจ้าเป็นจอมฉลาดแหลมคมทั้งองค์จึงประณามว่ากิเลสเป็นภัย ๆ ความเกิดแก่เจ็บตายในวัฏสงสารเพราะอำนาจของกิเลสนี้เป็นภัยทั้งนั้น ใครเป็นคนมาประกาศธรรมเหล่านี้คำเหล่านี้ถ้าไม่ใช่ศาสดาจอมปราชญ์ พวกเราประกาศได้ยังไง จมอยู่กับมันโงหัวขึ้นมามองดูมันได้เมื่อไรพอจะรู้ว่ามันเป็นโทษเป็นคุณแก่ตนอย่างไร นี่ซีที่หนักใจจะว่าไง

ความใฝ่ใจความสงสารหมู่เพื่อนก็เต็มหัวใจ มองไปแง่ไหนจะเห็นเป็นที่ภูมิใจมันไม่ภูมิ ต้องได้ตักได้เตือนได้ดุด่าว่ากล่าวกันไปเรื่อย ๆ ในสิ่งเหล่านั้นมีแต่เรื่องผิดนี่ ถูกแล้วเตือนกันทำไม ดุกันทำไม ว่ากันทำไม มันขวางธรรมอยู่นั้นแหละ ให้กิเลสเหยียบธรรมอยู่งั้น กิเลสเอาไม้ค้ำคออยู่นั่นน่ะมันดีแล้วเหรอ ถ้าจะเทียบก็เหมือนอย่างนั้น มันไม่ได้อยู่เป็นอิสระ มีแต่กิเลสเอาไม้ค้ำคออยู่นี้มันดีแล้วเหรอ ถ้าเรายังอยากรู้ชัดเห็นชัดก็ไปหาไม้มาซิ เอามาที่ชุมนุมนี้เอามาค้ำคอให้ดู ค้ำเพียงคอพระองค์เดียวเท่านั้น องค์ใดองค์หนึ่งเท่านั้น แล้วให้พระทั้งหลายดูกันมันดูได้ไหม นี่ยกข้อเปรียบเทียบมาให้ท่านทั้งหลายดู แล้วกิเลสค้ำคอทำไมมันน่าดูนัก

พูดแล้วสลดสังเวช มองดูองค์ไหนมีแต่กิเลสเอาไม้ค้ำคอ ๆ อยู่หมดวัดหมดวา แล้วมันน่าดูเหรอ ตั้งแต่เราเอาไม้ค้ำคอองค์เดียวเท่านี้แล้วให้ดูกันทั้งวัดดูได้ไหม นั่นละดูเอาซิจะให้ผมพูดยังไงนักหนา ไม่มีใครละจะพูดอย่างนี้ ผมอยากจะพูดอย่างนี้เลย ผมเองก็เป็นนักล่าอาจารย์มา ก็ไม่มีใครมีพ่อแม่ครูจารย์มั่นเท่านั้นที่พูดได้อย่างเด่น ๆ ชัด ๆ แต่เป็นนิสัยของแต่ละครูบาอาจารย์ที่จะนำเหตุนำผลนำอุบายธรรมออกมาใช้ ให้ลูกศิษย์ลูกหาได้ยินได้ฟัง ลึกตื้นหยาบละเอียดมากน้อยเพียงไรตามอัธยาศัยของท่าน เราก็พูดตามความรู้ความสามารถของเราให้หมู่เพื่อนฟัง

เอาไปคิดนะเอาไม้ค้ำคอพระนั่น กับกิเลสค้ำคอพระนั่น กิเลสค้ำคอเรามันน่าดู แต่เอาไม้ค้ำคอพระที่อยู่ในวัดนี้องค์ใดองค์หนึ่งแล้วมันน่าดูไหม ถ้าอันนี้ไม่น่าดูนั้นก็ยิ่งไม่น่าดูเลย มองไปไหนทั่วโลกธาตุมีแต่อย่างนั้นจะว่าไง มีแต่ไม้ค้ำคออยู่ กิเลสค้ำคอ ไม้ง่ามค้ำยันลงกับพื้น ดิ้นกระเสือกกระสนกระวนกระวาย จะตายแต่ไม่ตาย ดิ้นก็ไม่ทราบว่าจะดิ้นให้หลุดหรือดิ้นจะตายเฉย ๆ ไม่รู้ มันมีแต่ดิ้นจะตายเฉย ๆ ไม่ใช่ดิ้นจะให้หลุดนี่ ถ้าดิ้นจะให้หลุดก็ดิ้นซี ความเพียรมีเท่าไรฟาดมันลงไปซีถ้าจะดิ้นให้หลุด นี่มันไม่ใช่ดิ้นให้หลุด มันดิ้นกระเสือกกระสน สิ่งที่จะหลุดก็คือของใหม่ของเก่าอยู่ในท้องมันจะหลุดออกมา คือถูกไม้ค้ำนี่ คนดิ้นให้หลุดนี้ดูไปไม่เห็นกระดุกกระดิกว่ะ ความดิ้นอันนั้น มีแต่อันนั้นละมันจะดันออกมาทะลักออกมาเพราะถูกค้ำคอ

แล้วก็หลั่งไหลกันมา มาไม่ได้เรื่องได้ราว มารายหนึ่งก็ขวางตาให้เห็นแหละ มาสองรายก็ขวางกันมายิ่งกว่าหมาคาบบั้งข้าวหลามวิ่งตามทาง พวกท่านทั้งหลายเคยเห็นไหมหมาคาบบั้งข้าวหลาม มันคาบกลางกระบอกข้าวหลามวิ่งขวางทางไป มันไม่ได้คาบปากกระบอกวิ่งนะ ถ้าอยากจะทราบก็เอาข้าวหลามมาให้หมาคาบเป็นครูเป็นอาจารย์สอนคนบ้างซิ แล้วโยนข้าวหลามให้มัน มันจะคาบยังไงให้ดู มันจะคาบกลางกระบอกนั่นแหละแล้ววิ่งขวาง ข้าวหลามยาวเท่าไรมันวิ่งขวางเท่านั้น คนมาตามถนนหนทางนี้ล้มระนาวไป ถูกข้าวหลามที่หมาคาบนี้ตีหน้าผากเอาหลบไม่ทัน เหมือนกิเลสตีหน้าผากคนที่หลบไม่ทัน กิริยาอาการมันขวางอยู่อย่างนั้นจะว่าไง นี่ละกิเลสไปไหนขวางธรรมอย่างนี้ดูเอา แต่ไม่รู้เจ้าของนี่ซิ มีแต่เพลินอยู่นั้น เสือมันร้องเพลงให้ฟังมันจะเอาเคี้ยวเป็นอาหารอยู่ในขณะนั้น ยังหลับครอก ๆ เพลินฟังเพลงของมันอยู่นั้น

มากี่รายก็ไม่เป็นหน้าเป็นหลังอะไร ไอ้อยู่เก่าก็ไม่เป็นท่า มาใหม่ก็ไม่เป็นทางอะไร มีแต่ต่างคนต่างขวาง ขวางอรรถขวางธรรมจะว่าไง ขวางอรรถขวางธรรมก็คือการขวางตัวเองทำลายตัวเองผิดแปลกกันตรงไหน มาทำเล่น ๆ ได้เมื่อไรการฆ่ากิเลส กิเลสไม่ใช่ของเล่น มันต้องจริงต้องจัง ต้องได้เตือนเสมอ อะไร ๆ ก็เตือน เตือนเพื่อหลักใหญ่

ผมไม่ได้สนใจกับอะไรนะ วัตถุอย่าว่าแต่อยู่ในวัดป่าบ้านตาดนี้เลย วัตถุสมบัติอะไร ๆ ทั้งสามแดนโลกธาตุ ผมไม่เคยสนใจยิ่งกว่าหัวใจพระที่ผมอบรมสั่งสอนและรับเป็นภาระ ให้ความอุปการะทางด้านจิตใจเป็นสำคัญ อันนี้ผมถือมากทีเดียว เพราะคุณค่าอยู่ที่ใจนี่ ผู้ที่ถูกเหยียบย่ำทำลายทรมานที่สุดไม่มีอะไรเทียบแล้วในโลกนี้ก็คือหัวใจ สิ่งอื่นทำลายมันได้อะไร ร่างกายเป็นเครื่องมือของใจต่างหาก กระทบร่างกายก็เข้าไปสู่จิตใจ ถ้าใจไม่มีความรอบคอบ ตัวเองก็รับเหมาหมดทั้งร่าง เจ็บปวดแสบร้อนขนาดไหนใจต้องเป็นผู้รับ ร้อยทั้งร้อยใจรับทั้งนั้น นอกจากใจที่วิมุตติหลุดพ้นแล้วเท่านั้น จะรับทราบกันเพียงเท่านั้นไม่สามารถที่จะซึมซาบ อย่างใจพระอรหันต์ท่าน

เพราะฉะนั้นถึงได้พูดว่าพระอรหันต์ท่านไม่มีเวทนา ไม่ว่าสุขเวทนา ทุกขเวทนา อุเปกขาเวทนา เพราะทั้งสามนี้เป็นสมมุติ ได้ขาดสะบั้นออกจากใจแล้ว ระหว่างที่อยู่ด้วยกันกับขันธ์ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของใจ ก็เป็นเพียงความรับทราบกันด้วยสัญชาตญาณ เป็นความรับทราบเท่านั้น ไม่มีอะไรจะมาซึมซาบ ไม่มีอะไรจะไปทับถมจิตใจของท่านได้ โดยหลักธรรมชาติของจิตเองเป็นเช่นนั้น ไม่ต้องบังคับบัญชา


** ท่านผู้เข้าชมทุกท่านโปรดทราบ
    เนื่องจากกัณฑ์เทศน์บางกัณฑ์มีความยาวค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลต่อความเร็วในการเปิดเว็บไซต์ ขอแนะนำให้ทุกท่านได้อ่านเนื้อหากัณฑ์เทศน์บางส่วนจากเว็บไซต์ และให้ทำการดาวน์โหลดไฟล์กัณฑ์เทศน์ที่มีนามสกุล .pdf ไปเก็บไว้ในเครื่องของท่านแทนการอ่านเนื้อหาทั้งหมดจากเว็บไซต์

<< BACK

หน้าแรก