เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๒
ภพเพภพพา วิโลกานํ ทรงเล็งญาณดูสัตวโลกผู้ใดมีอุปนิสัยปัจจัยที่ควรจะบรรลุมรรคผลนิพพานได้ ก็ไปหยิบเอาตรงนั้น ๆ พากันเข้าใจนะ นี่พูดถึงเรื่องกองทุกข์ที่ช่วยตัวเองช่วยมาขนาดนั้น เอาจนถึงกิเลสขาดสะบั้นออกจากจิตใจ ความสว่างซึ่งไม่เคยพบมาตั้งแต่กัปไหนกัลป์ใดก็มาจ้าขึ้นในเวลานั้น อ๋อ อย่างนี้เหรอพระพุทธเจ้ารู้ธรรม รู้อย่างนี้เหรอ รู้สิ่งทั้งหลายรู้อย่างนี้เหรอ นั่นประจักษ์แล้วก็จะไปถามพระพุทธเจ้าทำไม ก็อันเดียวกัน เห็นอย่างเดียวกัน จ้า โห เป็นอย่างนี้เทียวเหรอ ๆ วันนั้นไม่นอนทั้งคืน เป็นเองนะ นั่งน้ำตาร่วง ทั้งอัศจรรย์พระพุทธเจ้า ทั้งอัศจรรย์ธรรมที่ครอง เรื่องขันธ์มันตื่นเต้นถึงน้ำตาร่วง เรียกว่าขันธ์แสดงตัว ธรรมชาติอันนั้นท่านไม่ได้แสดงแหละ เรื่องขันธ์ที่เป็นสมมุติมันแสดงตัวของมันเต็มเหนี่ยวเลย นี่ไม่นอนทั้งคืน
วันนั้นไปเทศน์ที่สกลนคร จึงได้ยกคุณของชาวสกลนครขึ้น ว่าเรามาอยู่สกลนครเป็นเวลา ๘ ปีบำเพ็ญธรรม พี่น้องชาวสกลนครเลี้ยงดูเรามาเป็นเวลา ๘ ปีเพื่อบำเพ็ญธรรมประเภทนี้ ถ้าหากว่าพี่น้องทั้งหลายไม่เลี้ยง คนจะทนไม่กินอาหารไปถึง ๘ ปียังไง กระดูกก็พังหมดไม่มีชิ้นไหนติดต่อกันละ นี้ก็มีชีวิตอยู่ ได้มาบำเพ็ญที่วัดดอยธรรมเจดีย์ก็บอก ผลประโยชน์ที่ได้ในเขตจังหวัดสกลนครของพี่น้องทั้งหลาย วันนี้จึงมาสนองคุณพี่น้องทั้งหลายด้วยการเทศนาว่าการในการช่วยชาติคราวนี้ ประกาศในคืนวันนั้น เราบอกขนาดนั้นนะ บอกจนเวล่ำเวลาสถานที่ เป็นยังไง เอามาอวดหาอะไร
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ที่ไหน ๆ เวลาเท่าไร ๆ เพื่อสั่งสอนสัตวโลกต่างหาก ให้เป็นประโยชน์แก่โลก ท่านไม่ได้เพื่อท่าน ท่านพอทุกอย่างแล้ว ถึงขั้นพอแล้วท่านมาหวังอะไร บกพร่องอะไรเพื่อเสริมท่านอีกท่านไม่มี นี่ก็ประกาศให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบถึงขั้นพอ บอกจนสถานที่ บอกว่าหลังภูเขาวัดดอยธรรมเจดีย์ ฟังซิน่ะชัดไหม เวลา ๕ ทุ่มพอดี วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๓ นั่นขนาดนั้นจะให้เราว่ายังไงอีก หรือว่าหลวงตาบัวอวดเหรอ พิจารณาซิ ถ้าอย่างนั้นก็หมดแล้ว ศาสนาจะไม่มีเหลือ จะเหลือแต่สิ่งจอมปลอม
ถ้าธนบัตรก็มีแต่ธนบัตรปลอมเต็มบ้านเต็มเมืองเต็มโลกเต็มสงสาร ธนบัตรจริงใบหนึ่งขึ้นมาแทรกไม่ได้ ถูกธนบัตรปลอมตีตก ๕ ทวีป มีแต่ใช้ธนบัตรปลอมกันเต็มบ้านเต็มเมืองหาสารประโยชน์ไม่ได้ คนปลอม ทุกสิ่งทุกอย่างใช้แต่ของปลอม โลกถือว่าเป็นของดีทั้งนั้น นั่นเห็นไหม ของจริงแทรกไม่ได้ ถ้าลงไม่ยอมรับความจริงคือธรรมพระพุทธเจ้าแล้วต้องเป็นอย่างที่ว่านี้เอง นี่วันนี้ได้พูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง เริ่มต้นมาตั้งแต่เริ่มช่วยชาติ เพราะฉะนั้นเราจึงทำเล่น ๆ ไม่ได้นะ ทำจริงจัง ยกชาติบ้านเมืองทำเล่น ๆ ได้เหรอ ต้องเอาจริงเอาจังเต็มเม็ดเต็มหน่วยทุกอย่าง เราทำเราก็ทำมาอย่างนั้น จากนั้นมาก็มาช่วยโลก
กิริยาท่าทางจึงบอก อย่าตัด ว่างั้นเลยนะ กิริยาท่าทางที่ออกในทีวีนั้นคือกิริยาท่าทางของธรรมออกสนามนะ ไม่ใช่กิริยาของกิเลสซึ่งเป็นฟืนเป็นไฟ ซึ่งต้องทำลายโลกให้ฉิบหายวายปวงไปหมด อันนี้เป็นกิริยาของธรรม ท่าทางของธรรม เป็นเรื่องของธรรมล้วน ๆ ผลักดันออกมาให้เป็นกิริยาอย่างนั้น เป็นพลังของความเมตตาสงสาร เป็นธรรมล้วน ๆ ออกกระจายให้พี่น้องทั้งหลายบนทีวี คือสนาม นั่นเป็นกิริยาอุ้มชาติบ้านเมือง ไม่ใช่กิริยาเผาบ้านเผาเมืองเหมือนกิเลสทำ กิริยาอย่างนั้นถ้าเป็นกิเลสแล้วเผาบ้านเผาเมืองแหลกหมด กิริยานี้เป็นน้ำดับไฟดับไปหมด พากันจำเอานะ ต่างคนต่างเสียสละ บ้านเมืองของเราอาศัยกันอยู่
มนุษย์เป็นสัตว์ขี้ขลาด ไม่มีใครขี้ขลาดเกินมนุษย์ กลัวมากที่สุดคือมนุษย์ อยู่คนเดียวก็อยู่ไม่ได้ แล้วทำยังไง สุดท้ายกลัวผี ให้อยู่ภาวนาก็กลัวผี อะไรก็กลัวผี ทำยังไง ไม่มีอะไรเป็นเครื่องอยู่ก็เอาไอ้ตูบมาเล่นด้วย ต้องเล่นกับหมา มันอยู่คนเดียวไม่ได้ เห็นไหม ไม่ได้เห็นโทษของตัวเองบ้างเหรอ หรือว่ามนุษย์เลิศกว่าเขา เลิศในทางเป็นบ้ามนุษย์เรา เข้าใจไหมล่ะ เอาละพอ
ปีนี้เป็นปีช่วยชาติ ๒๕๔๑๔๒ นี่เป็นปีเปิดหัวอก แต่ก่อนไม่เคย เทศน์สะเทือนโลกธาตุก็ว่าไปเฉย ๆ กลาง ๆ ไม่ได้บอกว่าเรารู้เราเห็น ปีนี้เปิดออกหมด มิหนำซ้ำยังติดประกาศไว้นั้นไปอ่านซิ แล้วเป็นยังไงมนุษย์เรา จิตใจเป็นยังไง เราอยากเอาอันนั้นมาเคาะอีกทีหนึ่ง เห็นแล้วยังเราอยากบอกอย่างนั้นนะ
ถาม ตอนนี้คนกำลังไขว้เขว คนที่เขาว่าเขาเป็นนักปริยัติเขาบอกว่า อนิจจํ ทุกขํ อนตตา พระนิพพานเป็นอนัตตา ทีนี้ที่หลวงตาเทศน์และผมเคยอ่านหนังสือหลวงตา หลวงตายืนยันว่า |