คำถาม 
โดย : ชอ ผู้กำลังศึกษา เมื่อ วันที่ 10 มี.ค. 2548

ขอคำแนะนำวิธีการปฏิบัติ

นมัสการหลวงตา  ก่อนอื่นหลานต้องขอกราบเรียนว่าในการปฏิบัติธรรมของหลานจะเป็นไปในแนวการศึกษาอ่านเองจากหนังสือที่หาอ่านได้  และเพิ่งนึกได้ว่ามีเว็บไซต์ของหลวงตาจากรถที่ได้ติดชื่อเว็บต์ไว้  เลยลองเปิดอ่านดู  ก็ได้พยายามศึกษาดู  แต่เนื่องจากหลานจะปฏิบัติในลักษณะจำเอาไม่มีอาจารย์แนะนำสั่งสอนหลานก็กำลังเพิ่มความเพียรพยายามในการปฏิบัติ  จึงพบปัญหาว่า  ในบางครั้งหลานก็ใช้วิธีของพระธรรมกายที่อ่านจากหนังสือ  คือ  เอาใจไปวางที่จุดเหนือสะดีอ  บางทีก็ใช้ พุท โธ กำหนดลมหายใจเข้าออก  แต่หลังจากได้เข้าเว็บซ์ของหลวงตา  หลานก็กำหนด พุท โธ  ขณะปฏิบัติหลานร้สึกว่า  ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายหาย หรือเบาคงเหลือไว้แต่มือท่หนักมาก  แต่ไม่ใช่จิตสงบนะคะ  เพราะหูได้ยินเสียงต่าง ๆ อยู่  ลมหายใจจะสั้นและเร็วมาก  มือจะหนักมาก  หลังจากนั้นหลานได้ปล่อยให้จิตไปตามความหนัก เหมือนรู้สึกว่าสั่น  แต่ก็รู้สึกเบาสบายอยู่ในระดับหนึ่ง  หลังจากหลานได้อ่านสนทนาธรรมะของหลวงตา  หลานจึงถอนออกมาโดยใช้สติหรือคิดว่าไม่มีอะไร อนัตตาสูญเปล่า   จึงหลุดออกมาจากความหนักนั้น  แล้วกำหนดพุท โธ  หลังจากปฏิบัติก็รู้สึกว่ามีความสุขที่จะให้กับคนอื่น ๆ มีความสุขในการให้  แต่หลานเพิ่งเริ่มปฏิบัติก็ราวเดือนกว่า ๆ  เป็นจิตหลานปรุงแต่งหรือไม่  แต่โดยปกติหลานจะถือคติคือการแผ่เมตตาให้กับสัตว์ที่ตายแล้ว  เวลาที่ขับรถไปแล้วสัตว์ตาย  ในบางครั้งถ้าหลานรู้สึกยินดีกับการทำความดีจะรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล  หรือสลดใจกับการกระทำที่ไม่ดีจะน้ำตาซึม  มีครั้งหนึ่งหลานเดินทางไปงานศพที่ อุดร  ตอนนั้นมีสัก 3 ศพที่สวดอยู่ท่วัด  หลานจึงแผ่เมตตาให้  หลานรู้สึกผมลุกชัน  นั่นหมายถึงว่าเขารับรู้รึเปล่าเจ้าคะ  และในบางครั้งหลานจะมีอาการผมลุกชันบ่อย ๆ จนในบางครั้งเกิดความไม่สบายในจึงเรียนรบกวนหลวงปู่ หรือ ผู้ที่ชำนาญช่วยชี้แนะแนวทางให้หลานด้วยค่ะ

คำตอบ
ตอบโดย : ทีมงาน เมื่อ 18 มี.ค. 2548

หลวงตาได้เมตตาตอบคำถามให้คุณ
เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๔๘ ดังนี้ค่ะ
หลวงตา      :     จิตจะวางจุดไหนๆ ก็ตาม เรื่องคำบริกรรมจะใช้คำบริกรรมใด ให้ความรู้อยู่กับคำบริกรรม ส่วนมากก็อยู่ท่ามกลางอก แต่ไม่ได้เจาะจง เพราะความรู้อยู่ได้ทั่วสรรพางค์ร่างกาย ถนัดที่ไหนอยู่ที่นั่นได้..ความรู้ สติอยู่ที่นั่น เป็นธรรมที่นั่นแหละ ส่วนมากเวลามันรวมเข้าไปแล้วมันจะเข้ามานี้เอง เป็นธรรมชาติ จะเข้ามาอยู่ในจุดศูนย์กลาง ในบาลีก็มีก็บอก คุหาสยํ คือท่ามกลางเป็นที่อยู่ของจิต เวลาเราภาวนานี้ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ อย่างเราเรียน ความจดความจำขึ้นสมองทั้งนั้นๆ เวลาเรียนไม่ว่าเรียนทางโลกทางธรรมใช้ความจำ ใช้ความจำต้องขึ้นทำงานอยู่ที่สมอง เรียนเสียจนกระทั่งสมองทื่อ มันไม่จำให้ นี่เรียกว่าทำงานอยู่บนสมอง เกี่ยวกับการจดการจำ ทีนี้พอทางด้านจิตตภาวนา พอจิตสงบเข้าๆ สมองไม่อยู่นะ มาอยู่ตรงกลางท่ามกลางอก สงบมากเท่าไรยิ่งเด่นอยู่ที่ท่ามกลางอก แล้วผ่องใสสง่างามไปก็อยู่กลางอกๆ กลางอกเป็นที่ตั้งเลยนะ

ที่ตั้งของความรู้ เช่น พุทโธ ถนัดที่ไหนเอาเลย ให้สติอยู่กับนั้น นั่นละถูกต้อง ให้ถืออันนี้เป็นหลักเกณฑ์ ถ้าสติอยู่ที่ไหนธรรมอยู่ที่นั่น ตั้งอยู่ภายในกายของเรา กาย สติปัฏฐานสี่อยู่ในนี้ เราตั้งในนี้จุดใดถูกต้องหมด สติปัฏฐานสี่ถูกต้องในองค์อริยสัจที่จะตรัสรู้ธรรมได้โดยไม่ต้องสงสัย ก็มีเท่านั้น เรื่องแผ่เมตตงเมตตาอะไรก็เป็นเรื่องของแต่ละคน อัธยาศัยใจคอ ไม่ตอบ เราก็แผ่ พระพุทธเจ้าพระองค์แรกแผ่พระเมตตาครอบโลกธาตุ สาวกทั้งหลายแผ่ครอบโลกธาตุ ท่านทำตามอัธยาศัยของท่านเรื่อยๆ มา ผู้บำเพ็ญก็แผ่ออกจากหัวใจไปได้ทั่วโลกธาตุเหมือนกันนั่นแหละ เอาเท่านั้นแหละ เอ้าว่าข้อต่อไป
    
ติดตามอ่านเต็มกัณฑ์ตาม link ข้างล่างนี้ค่ะ
http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text_print.php?ID=3296&CatID=2


<< BACK

 


หน้าแรก