|
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" page="dhamma_online";
/SCRIPT LANGUAGE="javascript1.1" src="http://truehits1.gits.net.th/data/e0008481.js">
|
|
|
คำถาม
|
|
โดย : โรจนธัมโม นามะ เมื่อ วันที่
2 มี.ค. 2548 |
การบวชโดยที่แม่ไม่ยอมสมควรหรือไม่ครับ
กราบนมัสการหลางตาที่เคารพอย่างสูงผมมีพี่น้องทั้งหมดเก้าคนทุกคนช่วยกันทำธุรกิจของครอบครัวและดำเนินต่อไปได้อย่างดีส่วนตัวกระผมนั้นเป็นน้องคนที่เจ็ดแต่พี่ๆให้เป็นคนบริหารงานแต่ส่วนตัวแล้วผมต้องการจะออกบวชเพื่อบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาแต่ติดอยู่ที่แม่เป็นห่วงไม่ยอมให้มาบวชผมจึงกราบเรียนถามหลวงตาว่าถ้าจะบวชโดยแม่ไม่ยอมนั้นสมควรหรือไม่ครับ
|
คำตอบ |
|
ตอบโดย : ทีมงาน เมื่อ 18 มี.ค. 2548 |
หลวงตาได้เมตตาตอบคำถามให้คุณ เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๔๘ ดังนี้ค่ะ หลวงตา : ที่ควรนั้นก็คือ ให้ปรึกษาตกลงด้วยเหตุผลในระหว่างแม่กับลูกกันเอง ลงจุดนี้ ให้ปรึกษากันระหว่างแม่กับลูก ด้วยเหตุผลด้วยกันทั้งสองฝ่าย เราบอกได้เท่านั้น
แต่เรานี้ที่จะออกบวชก็เพราะน้ำตาพ่อร่วง เห็นไหมล่ะ พอน้ำตาพ่อร่วงพังไปหมดทุกอย่าง ล้มไปหมดเลย น้ำตาพ่อจึงมีคุณค่ามีราคามากทีเดียว เวลาที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องของเรา สาเหตุก็มาจากน้ำตาของพ่อร่วง รับประทานกันเป็นวง ลูกหลายคน เราไม่ลืมมันสดๆ ร้อนๆ ตามธรรมดานิสัยของคนไทยเราส่วนมาก ทางภาคอีสานมักจะไม่ค่อยยกยอลูกหลานของตน ถ้าใครยกยอลูกหลานของตนเขาดูถูก เป็นนิสัยอย่างนั้นแหละ ไม่เคยยกยอ เรื่องการงานอะไรทุกอย่างไม่เคย ทั้งพ่อทั้งแม่ไม่เคยมี แต่ไว้ใจได้ยังไงก็รู้อยู่ลึกๆ อย่างนั้นเอง
วันนั้นรับประทานอาหารอยู่ตอนค่ำ เงียบๆ ขึ้นเลยพ่อ ขึ้นเวลานั้น เรียกว่ายกลูกขึ้น ยกขึ้นเพื่อจะทุ่มลง เอ้อ ลูกกูนี้ก็มีหลายคน กูไม่ได้หวังพึ่งมันแหละ ลูกผู้ชายก็มี ลูกผู้หญิงกูไม่พูดถึงมันแหละ กูมองหาใครก็มองไม่เห็น วันนั้นวันจะยกลูกขึ้น ยกขึ้นเพื่อจะทุ่มลง กูมองเห็นไอ้บัวคนเดียวนี้ ไอ้นี่ถ้าลงมันได้ทำอะไรแล้วกูสู้มันไม่ได้ บอกอย่างนี้เลยวันนั้น ลงมันได้รับงานอะไรแล้วกูสู้มันไม่ได้เลย แต่เวลากูจะให้มันบวชนี้หูหนวกตาบอดหมดเลย เวลากูตายแล้วนี้ไม่มีใครจะลากกูขึ้นจากนรกแหละ ถ้าไอ้นี้ลากกูขึ้นไม่ได้แล้วไม่มี พ่อน้ำตาร่วงลงเลย เรามองเห็นสะดุดปึ๊งทันที มองไปทางแม่ แม่เห็นพ่อน้ำตาร่วงแม่ก็น้ำตาร่วง เราลุกปุ๊บหนีเลย
สามวันไปคิดมัดตัวเองนะ ลงจุดน้ำตาร่วงอย่างเดียวหมดเลยเทียวไม่ไปไหน เราสลดสังเวช บุญคุณพ่อของเรายิ่งใหญ่ น้ำตาของพ่อทำให้เราเป็นมาขนาดนี้ ว่างั้นเถอะ ไม่งั้นไม่มีหวังละ ว่างั้นเลย นี่ละพ่อยกขึ้นอย่างนั้นละ ไอ้นี่ลงมันได้ทำอะไรแล้วกูสู้มันไม่ได้บอกตรงๆ แต่เวลายกขึ้นแล้วทุ่มลง กูให้มันบวชเมื่อไรหูหนวกตาบอดอยู่นั้นหมด ว่างั้น เวลากูตายแล้วถ้าไอ้นี้ไม่ลากกูขึ้นแล้วกูตกนรกจมไปเลย มีไอ้นี้เท่านั้น ขาดสะบั้นหมดนะ เรื่องทั้งหลายขาดหมดเลย น้ำตาพ่อเราไม่ลืม สดๆ ร้อนๆ
ทีนี้ก็ไปคิดอยู่สามวันเต็ม มัดตัวเองละที่นี่ ทุกสิ่งทุกอย่างโลกเขาทำได้ เราทำได้ๆ บวชโลกเขาบวชกันได้ ทำไมเราบวชไม่ได้ พ่อแม่มีด้วยกันทุกคน ลูกทุกคนบวชได้ด้วยกัน จะสึกก็ได้ไม่สึกก็ได้ ที่เป็นสมภารเจ้าวัดตายกับผ้าเหลืองมีเยอะ ทำไมเราจึงบวชไม่ได้ ถึงขนาดน้ำตาพ่อร่วง เอาตรงนี้นะ โถ สลดสังเวชมากนะ มัดเข้าๆ สุดท้ายก็อยู่ ลงใจปึ๋งละที่นี่ พอลงใจแล้วก็มาหาแม่ ธรรมดาโบราณเราแม่อยู่กับบ้าน พ่อไปทำการทำงานภายนอก ไม่เหมือนทุกวันนี้ทั้งหญิงทั้งชายทำงานนอกบ้านๆ ด้วยกันหมด แต่ก่อนผู้หญิงไม่ค่อยออกมีแต่ผู้ชาย เราจึงสนิทกับแม่ ติดแม่มาตลอด กับพ่อไม่ค่อยอะไร ดุก็ดุเหมือนกันทั้งพ่อทั้งแม่ แต่ติดแม่มากกว่า
ทีนี้ก็มาบอกแม่ มาขู่แม่ด้วยนะ นี่ว่าจะให้บวชก็จะบวชให้นะ ถ้าบวชแล้วจะสึกเมื่อไรก็สึก เราว่างั้น ถ้าใครมาห้ามว่าให้บวชเท่านั้นเดือนเท่านี้ปีถึงค่อยสึกไม่บวช เราว่างี้ ถ้าบวชตามอัธยาศัย อยากบวชเมื่อไรอยากสึกเมื่อไรสึกได้แล้วจะบวชให้ ว่างั้นละ แม่ก็ฉลาดกว่าลูก แม่ก็สาธุขึ้น เออ สาธุ เอ้า ลูกไปบวชนั่นน่ะ เวลาบวชแล้วพอออกมาจากโบสถ์นั่นนะ คนที่ไปบวชลูกเต็มอยู่หน้าโบสถ์นั้น ลูกจะไปสึกต่อหน้าคนมากๆ แม่ก็ไม่ว่าแหละ แม่อยากเห็นเวลาลูกบวช เห็นผ้าเหลืองลูกบวชในขณะนั้นแม่ก็พอใจ แล้วใครจะเป็นบ้าบวชแล้วออกมาสึกต่อหน้าคนมากๆ ไม่บวชเสียก็ไม่เห็นมีอะไรใช่ไหม นี่ละแม่มัดเอาแบบนี้ก็เลยบวชจนกระทั่งป่านนี้ ทั้งแม่ทั้งพ่อไม่ถามถึงการสึกการบวช เรื่อยๆ จนกระทั่งทุกวันนี้ เรื่องราวเป็นอย่างนั้นละ
นี่พูดถึงปัญหาเขาถามมา จะปรึกษาใครไม่ปรึกษาใครฟังเอาก็แล้วกัน ก็ต้องปรึกษาเสียก่อนด้วยเหตุด้วยผลด้วยกันทุกคนนั่นแหละ มีเท่านั้นเหรอปัญหา
คุณสามารถอ่านได้เต็มกัณฑ์ตาม link ข้างล่างนี้ค่ะ http://www.luangta.com/thamma/thamma_talk_text_print.php?ID=3296&CatID=2
|
|
|