สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๗ กันยายน ที่ผ่านมา ครูบาอาจารย์จากทั่วประเทศ ได้ประชุมสงฆ์ร่วมปกป้อง "มรดกธรรม" ของพ่อแม่ครูบาจารย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน โดยมติคณะสงฆ์ ข้อที่ ๔. ความว่า
" คสช. มีอำนาจอย่างเต็มที่ และยังกล้าใช้เพื่อสิ่งอื่นได้มากมาย แต่ยังมิได้ใช้โอกาสเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ด้วยการอุปถัมภ์ค้ำชูการเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านสื่อวิทยุกระจายเสียงให้กว้างขวางขจรขจายเฉกเช่น บูรพกษัตริย์ไทยทุกๆ พระองค์ ที่แม้มีการศึกสงครามหนักหาสาหัส เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพียงใด พระองค์ก็ไม่เคยทอดทิ้งศาสนา ไม่ว่าจะในทางรูปธรรมหรือนามธรรมก็ตาม อย่างไรก็ดี คสช. ยังกรุณาแนะนำให้พระสงฆ์เข้าร้องขอความคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลปกครองก่อนคำพิพากษา
ด้วยเหตุนี้คณะสงฆ์จึงมีมติอนุญาตให้ พระเณรผู้เคยรับอุบายธรรมจากทางสถานีเข้าร่วมลงนามปกป้องสมบัติของสงฆ์ผ่านศาลปกครอง ได้ถือเป็นการยอมรับตามคำแนะนำของ คสช. ว่า แนวทางดังกล่าวจะเป็นทางออกที่ดีแก่พระพุทธศาสนา คณะสงฆ์เชื่อมั่นว่า ศาลปกครองจะเข้าใจกุศลเจตนาของ คสช."
ด้วยเหตุจากมติสงฆ์ข้อนี้ เมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน เวลา คณะศิษยานุศิษย์จึงได้ร่วมนำรายนามของครูบาอาจารย์ อาจารย์จำนวน ๑,๕๖๗ รายชื่อ เพื่อร้องต่อศาลปกครองจังหวัดอุดรธานี นับเป็นประวัติศาสตร์แห่งการร่วมปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา
--------------------------------------------------
พระสงฆ์ สามเณร จำนวน ๗๐๐ รูปมีมติสงฆ์ในการประชุมปกป้อง มรดกธรรม สมบัติของสงฆ์
เมื่อวันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๐๐ น.
ภาพบรรยากาศงานฯ
==================================================================================
เขียนชื่อพระเณรผู้ร้องต่อศาล ลงในบรรทัดที่ขีดเส้นใต้ที่ระบุข้อความว่า "ผู้ฟ้องคดี" จากนั้นให้เซ็นต์ชื่อเป็นผู้มอบฉันทะ/ผู้มอบอำนาจ (พร้อมแนบสำเนาหนังสือสุทธิและสำเนาทะเบียนบ้าน ซึ่งลงนามรับรองสำเนาถูกต้องแล้ว)
ตัวอย่างการกรอกแบบฟอร์มร้องต่อศาล และเอกสารแนบ
|