********************
งานสืบหน่อต่อแขนงคลังหลวง บูชาพระคุณองค์หลวงตา
และร่วมพิธีมอบดอลลาร์เข้าคลังหลวงในโอกาสครบรอบ ๑๕ ปี
เงินบริจาค และเงินดอลลาร์ร่วมในงานบุญประเพณี ผ้าป่า ๑๒ เมษา
รวมทั้งสิ้น ๑๗๗,๖๓๖ เหรียญสหรัฐฯ เงินบาท ๑,๓๓๕,๐๐๐ บาท
ขออนุโมทนาสาธุการมหาทานมหากุศลเพื่อชนทั้งชาติมาพร้อมนี้
ก่อนเดินทางไปมอบสินทรัพย์เข้าคลังหลวงเพื่อสืบหน่อต่อแขนงคลังหลวง และบูชาพระคุณองค์หลวงตา ลูกศิษย์หลวงตาร่วมกันทำบุญตักบาตรที่สวนแสงธรรม แม้จะเป็นช่วงวันหยุดยาว คนเริ่มออกเดินทางไปต่างจังหวัด แต่ก็ยังมีโรงทานก๋วยเตี๋ยว ไอศกรีม สับปะรด น้ำตะไคร้ น้ำอัญชัน น้ำมะตูม ฯลฯ หลังจากพระฉันภัตตาหารแล้ว ครูบาอาจารย์จึงนำขอขมาองค์หลวงตาฯ ก่อนที่จะขึ้นรถบัส 3 คันตรงมาที่ ธปท. โดยคณะศิษย์หลวงปู่สังวาลย์และพระอาจารย์สนองวัดสังฆทาน ซึ่งหลวงตาได้กล่าวยกย่องหลวงปู่สังวาลย์ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสนองเสมอๆ ว่าเป็นกำลังสำคัญเป็นแขนซ้ายในการช่วยชาติ ก็ได้มาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง จนผู้มาร่วมงานเต็มห้องประชุมชั้น 2 ของอาคาร 7 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งเจ้าหน้าที่ ธปท.ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและดียิ่ง
แม้จะมีงานผ้าป่าที่สวนแสงธรรมไปเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ได้ปัจจัยมากถึง 4,371,795 บาท หรือประมาณ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เศษ แต่ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในองค์หลวงตาฯ ที่หลั่งไหลเข้ามา ทำให้แผ่นป้ายการบริจาคยังไม่สามารถระบุตัวเลขที่แน่นอนได้ ตัวเลขเงินบริจาคจึงเพิ่มเป็น 177,363 ดอลลาร์สหรัฐฯ และในที่สุดได้เพิ่มขึ้นเป็น 177,636 ดอลลาร์สหรัฐฯ และรวมกับเงินบาทอีกถึง 1,335,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ ธปท.ได้กรุณาให้ความอนุเคราะห์ที่จะนำเงินบาทที่รับบริจาคมาแลกเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากสินทรัพย์ในคลังหลวงจะประกอบด้วยทองคำ และเงินตราต่างประเทศ
คณะสงฆ์วัดสังฆทาน ศิษย์หลวงพ่อสังวาลย์ พร้อมฆราวาส
ร่วมบริจาคปัจจัยในนามวัด 100,000 บาท และได้ร่วมเดินทางมาที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำหน้าที่ตรวจสอบจำนวนสินทรัพย์ที่รับบริจาค
ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
ได้มาสู่ห้องประชุมที่นัดหมายเพื่อกราบนมัสการครูบาอาจารย์และรับคณะศิษย์หลวงตา
ท่านพระอาจารย์จิรวัฒน์ อตฺตรกฺโข องค์แทนคณะสงฆ์และศิษย์หลวงตา
อ่านหนังสือมอบสินทรัพย์บริจาคเข้าสู่คลังหลวง เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ขององค์หลวงตา
คณะสงฆ์มอบป้ายเป็นตัวแทนสินทรัพย์ที่คณะศิษย์หลวงตาร่วมบริจาคเข้าสู่คลังหลวง
หลังจาก ครูบาอาจารย์ศิษยานุศิษย์ขององค์หลวงตาได้มอบแผ่นป้ายแสดงจำนวนสินทรัพย์ที่บริจาคเข้าคลังหลวงแล้ว
ดร.ประสาร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มอบบัตรเกียรติคุณบัตรใส่กรอบอย่างสวยงาม เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการบริจาค
ท่านผู้ว่า ธปท. ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ได้กล่าวถึงความสำคัญของเงินบริจาค
และภาระหน้าที่ของ ธปท.ในการดำเนินนโยบายเพื่อความเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
คณะสงฆ์ร่วมให้พร เพื่อความเป็นสิริมงคลแด่ท่านผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
รวมทัั้งศิษย์หลวงตา
คณะศิษย์หลวงตา และฝ่ายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมรับพรจากคณะสงฆ์
พระอาจารย์มนตร์จิตต์เกษม ธมฺมธโร ได้กล่าวอนุโมทนากับ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
และอนุโมทนาแด่คณะศิษย์ที่ร่วมบุญช่วยชาติในครั้งนี้
หลังจากเสร็จพิธี คณะศิษย์ฯ ได้เดินทางกลับด้วยความปลื้มปิติ ที่ได้ร่วมกันบูชาพระคุณองค์หลวงตาฯ ที่ได้เมตตาเป็นผู้นำในโครงการช่วยชาติ ทำให้ชาติไทยผ่านพ้นวิกฤติมาได้ ผู้ที่มาร่วมงานในวันนี้ต่างมีความซาบซึ้งใจที่ได้ร่วมสร้างมหากุศลที่องค์หลวงตามหาบัวฯ ได้เมตตาเป็นผู้นำ ให้ลูกศิษย์ได้ก้าวเดินตาม เพื่อรักษาคลังหลวงให้เป็นเสาหลักค้ำความมั่นคงให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ตราบนานเท่านาน
เกียรติคุณบัตรได้จารึกว่า
ธนาคารแห่งประเทศไทย
เกียรติคุณบัตร
บัตรประกาศเกียรติคุณฉบับนี้ ขอถวายให้ไว้เพื่อแสดงว่า
คณะศิษย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
ได้มอบเงินสดจำนวน 177,636 ดอลลาร์สรอ. และเงินบาทจำนวน 1,335,000 บาท
ที่ประชาชนได้ร่วมใจกันบริจาคให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อให้นำไปเพิ่มพูนสินทรัพย์ในคลังหลวงให้เพิ่มขึ้น
เป็นสมบัติของชาติไทยตามเจตนาของประชาชนผู้บริจาคต่อไป
ธนาคารแห่งประเทศไทยรู้สึกซาบซึ้งในความเสียสละของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
คณะศิษย์และประชาชนผู้ร่วมบริจาคทุกท่านที่มีต่อประเทศชาติในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง
ขอ พระสยามเทวาธิราช ช่วยปกป้องรักษาทุกท่านให้ปราศจากภยันตรายทั้งปวง
มีความสุขความเจริญและสมหวังในสิ่งอันชอบธรรมทุกประการ
ลงชื่อ ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
ให้ไว้ ณ วันที่ 12 เมษายน 2556
******************
ภาพบรรยากาศ วันที่ ๖-๗ เมษายน ๒๕๕๖
คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียงการบรรยายและพระธรรมเทศนาในเรื่องความสำคัญของคลังหลวง
คืนวันที่ 6 เม.ย.56 หลังจากรับฟังบรรยายและพระธรรมเทศนาในเรื่องความสำคัญของคลังหลวง ปณิธานขององค์หลวงตาฯ ในการให้ลูกหลานสืบหน่อต่อแขนงคลังหลวง เพื่อรักษาชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ร่วมกันทำวัตรสวดมนต์เย็น นั่งสมาธิ เจริญภาวนา เพื่อเตรียมจิตใจในการสร้างมหาทาน มหากุศลในวันรุ่งขึ้น
ญาติธรรมร่วมกันทำบุญตักบาตร พระ เณร ประมาณ 50 รูป งานนี้ได้เห็นเณรน้อย เด็กเล็ก ทารก มาร่วมเป็นหน่อเล็ก ๆ เพื่อรักษาคลังหลวงให้มั่นคงสืบไป วัดป่าบ้านตาด นำผ้าป่าต้นใหญ่เข้าร่วมพิธีร่วมด้วยวัดอื่น ๆ ในสายพระกรรมฐานอย่างพร้อมเพรียง
เรือบุญปากน้ำ ประกอบด้วยเรือมหาบุญ มหากุศล รูปพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ประดิษฐาน นำเงินบาท ดอลลาร์ จากจิตใจรักชาติ เสียสละ ของชาวไทยมาร่วมสืบหน่อต่อแขนง เรือบุญลูกศิษย์หลวงปู่สังวาลย์ แขนซ้ายของหลวงตามหาบัวฯ และเรือดอลลาร์ของหลวงพ่อสนอง วัดสังฆทาน ลอยลำเข้าเทียบท่าฝั่งสวรรค์ พรหมโลก นิพพาน ด้วยความอิ่มใจ และยังมีผ้าป่าของลูกศิษย์ของพ่อแม่ครูบาอาจารย์อีกหลายองค์ ทั้ง หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท หลวงปู่ศรี มหาวีโร ฯลฯ ที่ร่วมงานบุญประเพณี 12 เมษาเพื่อบูชาพระคุณขององค์หลวงตาฯ และยังมีบริวารผ้าป่าตามมาอีกด้วย ทีมการเงินในโครงการช่วยชาติ นับเงินอย่างแข็งขัน ทำให้สรุปยอดได้อย่างรวดเร็ว
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน แล้วพบกันวันที่ 12 เมษายน 2556 เช้าที่สวนแสงธรรม เพื่อตักบาตร ถวายภัตตาหาร พระสงฆ์
ม.ร.ว.ทองศิริ ทองแถม จัดรถบัส 3 คัน เพื่อเดินทางไปร่วมงานมอบสินทรัพย์ที่แบงก์ชาติ รถออกเดินทางเวลา ............... น. ถึงแบงก์ชาติเวลา 13.00 น.
งานบุญประเพณี ผ้าป่า ๑๒ เมษา
สืบหน่อต่อแขนงคลังหลวง บูชาพระคุณองค์หลวงตา
และร่วมพิธีมอบดอลลาร์เข้าคลังหลวงในโอกาสครบรอบ ๑๕ ปี
ในวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๖ ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย
กำหนดการ-สถานที่ในการดำเนินงาน
วันเสาร์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๖ ที่ สวนแสงธรรม
๑๗.๐๐ น. ความสำคัญของคลังหลวงทั้งทางโลกทางธรรมและความห่วงใยขององค์หลวงตา (จัดบูธให้ความรู้)
๑๙.๐๐ น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น ฟังพระธรรมเทศนา รำลึกปฏิปทาและคุณูปการขององค์หลวงตาต่อชาติ
วันอาทิตย์ที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๖ ที่ สวนแสงธรรม
๐๗.๓๐ น. พระสงฆ์ออกบิณฑบาตภายในสวนแสงธรรม
๐๘.๐๐ น. พระสงฆ์อนุโมทนาให้พร
๐๙.๐๐ น. ทอดผ้าป่าประเพณี ๑๒ เมษา รักษาคลังหลวง บูชาพระคุณองค์หลวงตา
- พระสงฆ์อนุโมทนาให้พร
- เสร็จพิธี
วันศุกร์ที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๖ ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย
๑๓.๐๐ น. คณะสงฆ์ในนามคณะศิษยานุศิษย์องค์หลวงตา นำปัจจัยบริจาคในงานบุญประเพณีเข้ามอบต่อผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย
การร่วมบุญ
ผู้ที่ประสงค์จะร่วมบุญสามารถร่วมถวายผ้าป่าฯ เป็นประจำทุกปี ณ วัดป่าบ้านตาด หรือมูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชนฯ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ ๑๒ เมษายน ของทุกปี หรือบริจาคได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบิ๊กซี อุดรธานี บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 829-230778-7 ชื่อบัญชี ร่วมบุญประเพณี ๑๒ เมษา รักษาคลังหลวง ตามปณิธานองค์หลวงตา โดย พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน พระอาจารย์บำรุง นวพโล และพระอาจารย์รัฐวีร์ ฐิตวีโร
(หมายเหตุ บัญชีดังกล่าวจะถูกปิดในวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๒.๐๐ น. ถือว่าเสร็จสิ้นงานบุญประเพณีสำหรับปีนี้ และจะไม่มีการรับผ้าป่าหรือการรับบริจาคเพื่อการนี้อีกจนกว่าจะถึงงานบุญประเพณีในปีถัดไป หากพบเห็นในที่ใดกรุณาทราบว่าที่นั้นมิใช่งานบุญตามวัตถุประสงค์ของคณะศิษยานุศิษย์ขององค์หลวงตา)
ความเป็นมาและความสำคัญ
สืบเนื่องจากในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ชาติไทยประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจอย่างรุนแรงตกเป็นหนี้เป็นสินต่างชาติด้วยเงินมูลค่ามหาศาล องค์หลวงตาเปรียบภาวะดังกล่าวเป็น สงครามเศรษฐกิจ และด้วยเมตตาธรรมขององค์ท่านจึงได้เสียสละออกมาเป็นผู้นำใน โครงการช่วยชาติ เทศนาธรรมนำพี่น้องประชาชนไทยให้รักชาติ พร้อมเพรียงสามัคคีและเสียสละด้วยการบริจาค ทองคำและเงินดอลลาร์เข้าคลังหลวง เพื่อเป็นหลักประกันของชาติสืบไป
องค์หลวงตาเมตตาก่อตั้ง โครงการช่วยชาติ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๔๑ ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพมหานคร โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเป็นประธานฝ่ายฆราวาส โครงการช่วยชาติได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางทั้งจากพระสงฆ์และประชาชนทุกหมู่เหล่าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างมีน้ำใจเสียสละขวนขวายทุ่มเทอย่างจริงจังเพื่อชาติ จนมีผลานิสงส์ยิ่งใหญ่ค้ำชาติไทยให้แคล้วคลาดปลอดภัยหลุดพ้นจากภัยเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว
โครงการช่วยชาติได้มีพิธีปิดอย่างเป็นทางการ ณ สวนอัมพร บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๔๗ โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานในพิธี อย่างไรก็ตาม แม้องค์ท่านจะได้ยุติการออกเดินทางไปรับผ้าป่าช่วยชาติในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ และเทศน์เตือนพระเณรให้เร่งภาวนาตามปฏิปทาที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้พาดำเนินตลอดมาเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่สูญเสียไปจากภาระที่หนักหน่วงของชาติ
อย่างไรก็ตาม ความห่วงใยขององค์หลวงตาต่อคลังหลวง หรือ ทุนสำรองเงินตรา ว่ามีความสำคัญจำเป็นอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติกลับมิได้ลดน้อยถอยลงไปด้วยแต่อย่างใด ประกอบกับมีความพยายามหลายวาระจากผู้มีอำนาจคณะต่างๆ ที่มักหาอุบายวิธีจะเข้ามาแก้ไขกฎหมายล้วงเอาคลังหลวงไปใช้โดยยกเอาเหตุผลต่างๆ มาเป็นข้ออ้างล่อหลอกประชาชน อาทิ เอาไปลงทุนให้ได้ดอกผลมากขึ้นบ้าง เอาไปใช้ลดหนี้สาธารณะเพื่อพัฒนาประเทศบ้าง เอาไปตั้งเป็นกองทุนเพื่อความมั่งคั่งบ้าง เอาไปแก้ปัญหาภัยธรรมชาติต่างๆ บ้าง หรือแม้กระทั่งเอาคลังหลวงไปใช้แต่เพียงตัวเลขทางบัญชีบ้าง เป็นต้น
ภยันตรายต่างๆ เช่นนี้น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้องค์หลวงตายังต้องอุตส่าห์เมตตารับ ทองคำน้ำไหลซึม เข้าสู่คลังหลวงติดตามมาอีกภายหลังปิดโครงการช่วยชาติแล้วดังคำเทศนาเมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๔๘ ว่า
เมื่อยังพอเป็นไปได้อยู่เราจึงได้พิจารณา ประสานให้มันค่อยเป็นไปๆ อย่างนี้ เป็นประเภททองคำน้ำซับน้ำซึมไป มันก็ไม่ได้ล่าได้สายอะไรนี่ ไม่รีบไม่ด่วนไม่เร่ง ค่อยเป็นค่อยไป มันก็ค่อยมา .....เราต้องคิดซิ เราอยู่ในบ้านอยู่ในเมือง อยู่ในชาติของเรา เราต้องคิดถึงบ้านถึงเมืองถึงชาติของเรา สังคมครอบครัวของเรา คิดย้อนหน้าย้อนหลังซิเราเป็นเจ้าของ จะอยู่เฉยๆ ไม่เหมาะนะเราเป็นเจ้าของ ปู่ย่าตายายที่ท่านพาถ่อพาพายมาท่านเป็นเจ้าของมา ท่านรับผิดชอบมาเรื่อยๆ แล้วพวกเราลูกหลานไม่รับผิดชอบต่อสายกันไปมันก็ฉิบหายได้ ต้องต่อสืบทอดกันไป ต้องคิด พวกเรา คิดทุกคนนะ คิดเพื่อความแน่นหนามั่นคงแห่งชาติของตน แล้วยังต้องคิดถึงความสงบสุขของบ้านเมืองอีก ต้องคิดหลายแง่หลายทาง อย่าเอาแต่ความอยากความทะเยอทะยาน ความเอาตามใจชอบๆ ความตามใจชอบมันมีแต่ฝ่ายต่ำนะ ไม่ได้มีฝ่ายสูงคือธรรมแทรกเลย ถ้ามีธรรมแทรกเข้าไป ถึงฝืนก็ฝืนเป็นยาๆ ไปเรื่อย ขมก็ขมเป็นยา เป็นอย่างนั้นนะ จึงควรพิจารณาพี่น้องทั้งหลาย
ระยะต่อมาอีกเพียง ๒ ปี ๔ เดือน ก่อนองค์หลวงตาจะเข้าสู่พระนิพพานในวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๔ คือเมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๕๑ องค์ท่านยังเทศน์ย้ำถึงความสำคัญจำเป็นเกี่ยวกับคลังหลวงอีกว่า
ให้พี่น้องทั้งหลายช่วยกันนะ หลวงตาบัวไม่นานก็จะตาย ลูกหลานทั้งหลายไม่ตายให้ได้อาศัยนี้ หลวงตาพาพี่น้องทั้งหลายช่วยหาสมบัติอันสำคัญเข้าสู่คลังหลวงของเรา เพื่อให้ลูกหลานเราได้สืบหน่อต่อแขนงต่อไปอีก ที่เราได้มานี้ปู่ย่าตายายของเราหามาไว้ให้ ทีนี้ก็ให้สืบทอดกันไป อย่าให้กุดให้ด้วนไป ของเก่าที่ได้มากินหมด ของใหม่ไม่มีไม่ได้นะ ต้องหาของใหม่มาเพิ่มเข้าไป
แม้ที่สุดวาระนิพพาน องค์หลวงตายังเน้นหนักความสำคัญของคลังหลวงดังปรากฏตาม พินัยกรรม ซึ่งเปรียบประหนึ่งว่า องค์ท่านยอมเสียสละเอาพระสรีระสังขารที่หมดลมหายใจขึ้นมาโอบอุ้มคลังหลวงตราบจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิต ทำให้ได้ทองคำเข้าคลังหลวงเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมากรวมทั้งสิ้นตั้งแต่วันเริ่มต้นโครงการช่วยชาติเป็นน้ำหนักมากถึง ๑๓ ตัน เงินดอลลาร์ (รวมดอกเบี้ย) ๑๐,๘๐๓,๖๐๐ เหรียญสหรัฐอเมริกา
ด้วยเหตุผลตามอรรถธรรมขององค์หลวงตาที่ได้เมตตาพร่ำสอนกล่าวเตือนไว้อย่างจริงจังเด็ดขาดย้ำแล้วย้ำเล่าเช่นนี้ อีกทั้งเพื่อเป็นการสืบสานเจตนารมณ์ขององค์หลวงตาให้ดำรงอยู่คู่ชาติไทยมิให้เสื่อมสูญไป ศิษยานุศิษย์ทั้งฝ่ายบรรพชิตและคฤหัสถ์จึงเห็นพ้องต้องกันว่า พวกเราจะตอบแทนพระคุณองค์หลวงตาด้วยการบำเพ็ญทานสืบสานประเพณีอันดีงามที่องค์ท่านได้เมตตาพาดำเนินมานี้ ให้ดำรงอยู่คู่ชาติศาสน์กษัตริย์ชั่วลูกชั่วหลานตลอดไป โดยมิได้ถือเอาความมากน้อยของปัจจัยทำบุญเป็นประมาณยิ่งกว่าการปฏิบัติบูชาตามที่องค์หลวงตาสั่งสอนอันเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบูรพมหากษัตริย์และบรรพบุรุษไทย และต่อองค์หลวงตาที่ได้เมตตาอุตสาหะนำพาคนไทยให้รู้จักการเพิ่มพูนและปกปักรักษาคลังหลวงอันเป็นการเสียสละเพื่อส่วนรวมได้ชนิดยอมทุ่มเทเอาชีวิตเข้าแลกได้เลยทีเดียว
อีกประการหนึ่ง เพื่อให้กุลบุตรสุดท้ายภายหลังที่เกิดไม่ทันหรือไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมในกองบุญมหากุศลอันยิ่งใหญ่เพื่อชนทั้งชาติที่มีองค์หลวงตาเป็นผู้นำกองนี้ ให้เขาเหล่านั้นได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการเพิ่มพูนและปกป้องคลังหลวงให้ยืนยงคู่ชาติศาสน์กษัตริย์เป็นมรดกตกทอดสู่ลูกหลานรุ่นแล้วรุ่นเล่าตลอดไป มิยอมให้ผู้ใดหรือคณะบุคคลใดเข้ามาแตะต้องทำลายโดยเด็ดขาด ให้ประเพณีอันดีงามนี้ได้สืบทอดต่อไปถึงลูกถึงหลาน เพราะตราบที่ผ้าป่า ๑๒ เมษา นำทรัพย์สินเข้าคลังหลวงยังดำรงอยู่ ตราบนั้นจะไม่มีใครมาแตะต้องคลังหลวงโดยง่าย ทำให้ประเพณีการรักษาคลังหลวงที่องค์หลวงตาเป็นผู้นำไม่มีวันสิ้นสูญ เด็กรุ่นต่อๆ ไปจะรู้จักและเห็นความสำคัญของคลังหลวง เห็นถึงความเสียสละและคุณูปการอันยิ่งใหญ่ขององค์หลวงตาที่มีต่อชาติไทยของเรา ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็จักได้ตระหนักระมัดระวังสินทรัพย์ของแผ่นดิน พระธรรมเทศนาขององค์หลวงตาจะดังกึกก้องกังวาลอยู่ตลอดชั่วนิรันดร์กาลว่า คลังหลวงคือหัวใจของชาติ หากคลังหลวงกุดด้วนไปเมื่อใด เมื่อนั้นหลวงตาเขียน ใบตาย ให้กับชาติไทยในทันที
คณะศิษยานุศิษย์องค์หลวงตาผู้มีความเคารพเทิดทูนบูชาในปณิธานคำสอนขององค์หลวงตา จึงได้พร้อมใจกันจัดงานบุญประเพณี ผ้าป่า ๑๒ เมษา สืบหน่อต่อแขนงคลังหลวง บูชาพระคุณองค์หลวงตา เป็นประจำทุกปี โดยได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๕๕ แม้จะมิได้ประชาสัมพันธ์ในวงกว้างเท่าใดนักก็ยังสามารถรวบรวมปัจจัยเป็นจำนวนมูลค่าได้มากถึง ๑๙,๐๐๐ เหรียญสหรัฐอเมริกา ซึ่งคณะสงฆ์ได้นำสินทรัพย์ดังกล่าวเข้ามอบแด่ ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ณ หอประชุม.... ธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๕ และสินทรัพย์ดังกล่าวก็ได้นำเข้าสู่คลังหลวงในทันที สำหรับในปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ ๑๕ ปี แห่งโครงการช่วยชาติ คณะสงฆ์และประชาชนศิษยานุศิษย์องค์หลวงตาจึงมีสามัคคีธรรมพร้อมใจกันแสดงความกตัญญูกตเวทีและความรักชาติด้วยการปฏิบัติบูชาตามคำสอนขององค์หลวงตาให้สัมฤทธิผลเป็นธรรมเทศนาปาฏิหาริย์ปรากฏแก่สายตาของสาธารณชนอีกครั้งหนึ่ง ยังความแน่นหนามั่นคงเพิ่มพูนคลังหลวงให้สถิตสถาพรอยู่คู่ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดไป
กราบถวายต้นผ้าป่า ๑๒ เมษา บูชาคุณองค์หลวงตาฯ
วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๕
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นตัวแทนรับมอบ
วัตถุประสงค์
๑. ร่วมใจกันบริจาคสินทรัพย์เข้าสู่คลังหลวง เป็นการแสดงความรัก ความพร้อมเพรียงสามัคคี และความเสียสละเพื่อชาติ เงินบริจาคจะมากหรือน้อยไม่สำคัญยิ่งกว่าการได้ทำหน้าที่เพื่อชาติ
๒. สืบทอดเจตนารมณ์ขององค์หลวงตาให้เป็นประเพณีแห่งมหาทานมหากุศลเพื่อชาติเป็นประจำทุกปี เป็นการรำลึกถึงคุณูปการและตอบแทนพระคุณขององค์หลวงตา ตลอดจนบูรพมหากษัตริย์และบรรพชนชาวไทยที่สามารถเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตได้เพื่อชาติ
๓. แสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อองค์หลวงตาผู้เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ที่เคารพบูชาอย่างสุดหัวใจของเหล่าคณะศิษย์ชั่วลูกชั่วหลาน
๔. เปิดโอกาสให้กุลบุตรสุดท้ายภายหลังที่เกิดไม่ทันหรือไม่มีโอกาส ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกองบุญที่มีองค์หลวงตาเป็นผู้นำแห่งการก่อตั้ง
๕. เป็นการตอกย้ำและประกาศให้สาธารณชนได้รับรู้ว่า จะมิยอมให้ผู้ใดหรือคณะบุคคลใดเข้ามาแตะต้องหรือทำลายคลังหลวงได้โดยเด็ดขาด จะสืบทอดประเพณีการรักษาคลังหลวงให้ดำรงอยู่คู่สถาบันหลักของชาติ
ด้วยอานิสงส์ที่ท่านทั้งหลายมีขันติธรรมวิริยะธรรมได้ร่วมบุญและอนุโมทนาบุญในครั้งนี้เป็นผลสำเร็จ ขอผลานิสงส์ผลบุญเหล่านี้จงเป็นพลวปัจจัยเกื้อหนุนให้ท่านทั้งหลายเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ และธรรมสมบัติ ถึงความสำเร็จพร้อมในกิจการงานทางโลกและทางธรรม ให้คลังหลวงมีความมั่นคงยืนยาว แคล้วคลาดปลอดภัยพ้นจากภยันตรายใดๆ สถิตสถาพรอยู่คู่บ้านคู่เมือง คู่สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอดกาลนานเทอญ
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยและคณะเป็นตัวแทนรับมอบ
๑๒ เมษายน ๒๕๕๕ ภายในห้องประชุม ธนาคารแห่งประเทศไทย
|