Find in Page
Print
Print
Close
Close
:: บทเพลงประวัติหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน :: เพลงที่ 13 ติดสมาธิ

                             เพลงประวัติหลวงตามหาบัว
                                ตอนที่ ๑๓ ติดสมาธิ
                              **********************
 นั่งจนก้นพองก้นแตก ไม่ย้ายแยกหนีไป แม้กายจะช้ำ
อยู่ป่าน่ากลัว เสือช้างรอบตัว ตามเขาถ้ำ
หนาวเหน็บระกำ ถึงยามหน้าหนาว ทนร้าวรอน
มีผ้าอยู่เพียงสามผืน สังฆา สบง จีวร
ไร้เตียง ผ้าห่ม ฟูกหมอน อาศัยนอนเพิงริมไม้
เดินจงกรม จนเท้าระบมเหมือนไฟ
ไม่ท้อถอยเลยจิตใจ จนสมาธิได้แน่นอน
(ดนตรีนิดหน่อย)
 เลยติดสมาธิอยู่ เพราะความไม่รู้ จึงหลงเลยไปไม่ย้อน
ติดอยู่ ๕ ปี ไม่มีท่าทีผันผ่อน
ไม่อยากจากจร คิดเอาแน่นอนนี่คือ นิพพาน
ไปคิดเอาเอง ไปหลงเอาเอง เลยเคว้งอยู่นาน
เถียงกันกับท่านอาจารย์มั่นนั้น จนท่านแทบหน่าย
สมาธิจิต ท่านบอกจะติดไปทำไม
จงใช้ปัญญาดูไป เป็นปัจจัยมรรคผลนิพพาน
(ดนตรีรับครึ่งหนึ่งของทำนองเพลง)
 โต้เถียงกันจนหน้าดำหน้าแดง โต้แย้งเรื่องของสมาธินั่น
ด้วยเหตุด้วยผล มิใช่ยกตนเสมอท่าน
แต่แตกต่างกัน ในทางพากเพียรเรียนรู้มา
ตามหลักตามเกณฑ์ จนพระและเณรทั้งวัดฮือฮา
มาเต็มใต้ถุนศาลา นิ่งฟังวาจาสองฝ่าย
จนในที่สุด หลวงปู่มั่นบรรยาย
เหตุผลต้นกลางบั้นปลาย ในสมาธิจนแจ้งจริง

  (พูด-๑๓)
  ท่านมหาสบายเหรอ ใจน่ะ  สบายดีอยู่ สบายดีขอรับ  ท่านจะนอนอยู่กับสมาธิอย่างนั้นเรอะ ท่านรู้ไหม สุขในสมาธิเปรียบเหมือนเนื้อติดฟัน ท่านรู้ไหมว่าติดในสมาธินั้น เหมือนเนื้อติดฟันนั่นแหละ มันสุขมากหรืออย่างไรเนื้อติดฟันน่ะ ท่านรู้ไหม สมาธิทั้งแท่งนั่นแหละ คือสมุทัย ทั้งแท่ง..ท่านรู้ไหม?  ถ้าว่าสมาธิ เป็นสมุทัยแล้ว สัมมาสมาธิ จะให้เดินทางไหน?  มันไม่ใช่สมาธิตาย นอนตายอยู่กับสมาธิอย่างนี้หรอก สมาธิของพระพุทธเจ้า สมาธิต้องรู้สมาธิ ปัญญาต้องรู้ปัญญา อันนี้มันเอาสมาธิเป็นนิพพานเลย…มันบ้าสมาธินี่ สมาธิแบบนอนตายอยู่อย่างนี้น่ะเรอะ จะเป็นสมาธิของพระพุทธเจ้า 
  ก็ได้โต้เถียงกับหลวงปู่มั่นจนตาดำตาแดง จนกระทั่งพระทั้งวัดแตกฮือกันมาอยู่ใต้ถุนศาลา นี่เพราะฟังการโต้กับหลวงปู่มั่นไม่ใช่โต้ด้วยทิฏฐิมานะอวดรู้อวดฉลาดนะ แต่โต้ด้วยความที่เราเข้าใจว่าจริงอันหนึ่งของเรา ส่วนท่านก็จริงอันหนึ่งของท่าน สุดท้ายก็หัวเราแตก (ถ้าพูดในสมัยนี้ก็คือหน้าแตก หมอไม่รับเย็บนั่นแหละ) เพราะหลวงปู่มั่นท่านรู้โดยแจ่มแจ้งมาก่อนแล้ว ส่วนเราพูดทั้งๆที่กิเลสเต็มหัวใจ แต่เข้าใจไปว่า สมาธินี่มันจะเป็นนิพพาน แล้วสุดท้ายก็ได้ท่าน (คือหลวงปู่มั่น มาช่วยชี้แจงอธิบายจนเข้าใจอย่างแจ้งประจักษ์ ก้มลงกราบท่านด้วยความเคารพอย่างสุดหัวใจ และเทิดทูนในภูมิธรรมของท่าน พลางนึกตำหนิตัวเองว่า นี่เราเก่งมาจากทวีปไหน เรามามอบกายถวายตัวต่อท่าน เพื่อศึกษาอรรถธรรมหาความจริง ทำไมวันนี้จึงมาขึ้นเสียงโต้เถียงกับท่านยิ่งกว่ามวยชิงแชมเปี้ยนเสียอีก ถ้าไม่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติตามที่ท่านสอนนี้ แล้วมาหาท่านทำไม ถ้าว่าเราวิเศษวิโสแล้ว ทำไมเราต้องมาหาครูบาอาจารย์ด้วยล่ะ โอ ! ตัวเรานี้เป็นถึงขนาดนี้เชียวหนอ สุดท้ายท่านก็ออกก้าวทางปัญญา ตามที่พระอาจารย์มั่นท่านเมตตาชี้แนะไว้ทุกประการ
                                        **********************


Copyright © 2002 - 2003 วัดป่าบ้านตาด ต. บ้านตาด อ. เมือง จ. อุดรธานี 41000
All Rights Reserved.