|
![]() |
:: บทเพลงประวัติหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน :: เพลงที่ 19 เผาศพกิเลสทั้งมวล ถึงวิมุตติสุดงาม |
เพลงประวัติหลวงตามหาบัว ตอนที่ ๑๙ เผาศพกิเลสทั้งมวล ถึงวิมุตติสุดงาม ********************** พอโรคร้ายหายสิ้นย้อนคืนถิ่นเดิมอีกที สู่วัดดอยธรรมเจดีย์อีกหน บ่มธรรมะชำระกิเลสเหตุหมองมัวหม่น ให้หายสิ้นในใจตน พ้นเลยล่วงบ่วงอวิชชา อันรูปเสียงกลิ่นรสสัมผัสนานา รู้สิ้นแต่นานมาไม่กังขาไม่น่าห่วงใย แต่ยังติดค้างอยู่กับความสว่างไสวของดวงใจดวงจิตนี่ที่อัศจรรย์ งงงันยิ่งนัก ไม่หยุดไม่พัก พิจารณา กว่าจะรู้จะเข้าใจซึ้งในวิญญา ด้วยความแท้จริงก็มาเสียเวลาอยู่ตั้ง ๘ เดือน ( ดนตรีรับนิดหน่อย ) ความผ่องใสหมองเศร้าเคล้าความสุขความทุกข์ก็ดี ทั้งหมดนื้เป็นสมมุติไม่มีบิดเบือน ปฏิปทามัชฌิมาน้อมพาใจเตือน ปัญญาขื้นมาแย้มเยือน เตือนรู้เด่นเป็นอนัตตา ความแจ้งไสวทื่จิตใจยึดติดนานมา คือ ตัวอวิชชา นั่นแหละหนาที่มาครอบงำ อวิชชาตัวนี้ฉลาดล้ำแหลมคมนำพาให้หลงพะวงไม่วาย ดลใจไขว้เขวจนยากหักเหเห็นโทษทัณฑ์ ถ้ามัวหลงจิตอวิชชาว่าอัศจรรย์ เจิดจ้าทั้งคืนทั้งวัน คงไม่ผ่านวิมุตติสุดงาม (ดนตรี-รับเต็ม) ครั้นคืนเดือน ๖ แรม ๑๔ ค่ำ ตามเวลา วันที่ ๑๕ พฤษภา ๒๔๙๓ เวลา ๕ ทุ่ม อย่างเที่ยงตรงนั้นตามโมงยาม ก็คิดแก้ปัญหาธรรมงามสำเร็จกว่า เพชรเจียระไน ที่เคยติดค้างอย่างละเอียด คอยเบียดบังใจ ลึกล้ำสักเพียงใด แก้จนหาย ไปได้หมดเลย อันอวิชชาชาติภพ ที่เกาะเกย สิ้นกันเลย ธรรมเฉลย ชนะ หมู่มาร อนันต์ความทุกข์ ก็ถูกตัดสินจบสิ้นกันที ประจักษ์แจ้งใจอย่างผ่องใสยิ่งในฤดี สมมุติทั้งมวลที่มี ถูกวิมุตติตีหลุดกระจาย ( ดนตรี ) ( พูด-๑๙ ) ในขณะนั้น จิตเป็นกลางๆไม่จดจ่อกับอะไร ไม่เผลอส่งใจไปไหน ปัญญาก็ไม่ทำงาน สติก็รู้อยู่ธรรมดาของตนไม่จดจ่อกับสิ่งใด ขณะที่จิต-สติ-และปัญญา ทั้ง ๓ อย่างเป็นอุเบกขามัธยัสถ์นั่นแล เป็นขณะที่โลกธาตุภายในจิตอันมีอวิชชาเป็นผู้เรืองอำนาจ ได้กระเทือนเลื่อนลั่นและขาดสะบั้นลงจากบัลลงก์ใจ กลายมาเป็นวิสุทธิจิตขึ้นมาแทนที่ ในขณะเดียวกัน อวิชชาก็ขาดสะบั้นแหลกแตกกระจายหายซากลงไป ด้วยอำนาจของกิเลสและปัญญาอันเกรียงไกร ขณะที่ฟ้าดินถล่มโลกธาตุหวั่นไหว แสดงความมหัศจรรย์ขึ้นสุดท้ายปลายแดนระหว่างสมมุติกับวิมุตติ ตัดสินกันบนศาลสถิตยุติธรรม โดยมีวิมุตติญาณทัศนะ เป็นผู้ตัดสินคู่คดีความ และแล้วฝ่ายมัชฌิมาปฏิปทามรรคอริยสัจ ก็เป็นฝ่ายชนะโดยสิ้นเชิง ท่านถึงกับอุทานออกมาว่า อัศจรรรย์หนอๆ แต่ก่อนธรรมนี้อยู่ที่ไหน…มาบัดนี้ ธรรมแท้มาอยู่ที่จิต เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับจิตได้อย่างไร และแต่ก่อนพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์สาวกอยู่ที่ไหน มาบัดนี้องค์สรณะที่แสนอัศจรรย์ใจมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับจิตได้อย่างไร โอ้ธรรมแท้-พุทธะแท้-สังฆะแท้ เป็นอย่างนี้เองหรือ ไม่ได้อยู่กับความคาดหมายด้นเดาใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นความจริงและอยู่กับความจริงล้วนๆเพียงอย่างเดียว ******************* |
![]() |
Copyright All Rights Reserved. |