Find in Page
Print
Print
Close
Close
:: บทเพลง ''ช่วยชาติ'' กับหลวงตาฯ/โดย คณะคุณเพลิน พรหมแดน :: รำลึกงานบูชาคุณแผ่นดินไทย ตอนที่ ๒ (๒๑ เม.ย. ๒๕๔๔ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง)

                                 เพลง รำลึกงานบูชาคุณแผ่นดินไทย ตอนที่ ๒
                                          บทเพลงโดย เพลิน พรหมแดน

โอ้องค์พระแก้วแววฟ้า องค์พระสยามเทวาเจ้าพ่อหลักเมือง 
พระเสื้อทรงเมืองอันเรืองเดชา พระกาฬชัยศรีและบูรพระมหากษัตรา 
สวรรค์ทุกชั้นเชิญมาเป็นประจักษ์พิทักษ์แผ่นดิน ปวงทวยเทพเทวีเทวัญชั้นใดโปรดจงทรงร่วมหทัย มาอวยชัยให้พรโสภิณช่วยคุ้มแผ่นดิน ภัยจงสิ้นไปทั้งดินแดน
-ดนตรี-
ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มารวมสัมพันธ์น่าอัศจรรย์ มาพร้อมเพรียงกันเนืองแน่น 
ผู้คนที่มาเป็นเรือนแสน ไม่ขาดแคลนทั่วแคว้นทั่วแดนยืนหยัด 
สนามหลวงดูแคบไปถนัด ต่างมีจุดนัดชาติ ศาสน์ กษัตริย์ สามัคคี
-ดนตรี-
(แหล่)
พอได้เวลาหลวงตาเทศน์โปรด ให้เห็นคุณโทษกรรมชั่วกรรมดี…..
โดยช่อง ๑๑ กรมประชาสัมพันธ์ เห็นความสำคัญ จึงถ่ายทอดทีวี…..
เทศน์ภาษาธรรมไม่อ้อมคำตามตรง นาน ๑ ช.ม.๒๓นาที
ท่านว่าวันนี้เป็นวันมหามงคล ชาวไทยทุกคนควรตระหนักให้ดี
เมืองไทยของเรากำลังเข้าตาจน เศรษฐภัยมายลทุกหนทุกที่
อย่าเหิมอย่าเห่อทะเยอทะยาน ไม่รู้ประมาณในการพอดี
  ให้รู้ประหยัดมัธยัสถ์กันมั่ง  อย่าเป็นน้ำล้นฝั่งมหานที
-ดนตรี-
  พี่น้อง ชาวไทยจำไว้ให้มั่น ชาติเราต้องการสมัครสมานสามัคคี…..
  ร่วมแรงแข็ง ขันร่วมกันบริจาค อย่ารักชาติแต่ปากแค่เพียงวจี…..
ให้นานาภาษาเขาชื่นชม ให้เขานิยมทึ่งในศักดิ์ศรี…..
ถึงไทยจะล่มจะจมก็ไม่นาน ถ้าไทยเราตั้งมั่นช่วยกันยอมพลี
  แบ่งทรัพย์สิ่งของเงินทองช่วยชาติ ล้านบาทร้อยบาทหนึ่งบาทก็ยังดี
จะกินจะอยู่ต้องดูฐานะ อดออมมานะให้ถูกวิธี
อย่ากู้หนี้ยืมสินพะรุงพะรัง หนี้สินนุงนังเป็นทุกข์ตลอดปี
-ดนตรี-
อย่าหาแต่เรื่องไปเมืองนอกเมืองนา เห็นเมืองไทยไร้ค่าไม่น่าคลุกคลี…..
  เป็นโตเป็นใหญ่ อย่าไถอย่ารีด ใช้อำนาจทุจริตกระทำย่ำยี…..
  อย่ามากเมียมากผัวเมามัวกามา ให้รู้คุณค่ากรอบประเพณี…..
อย่าหลงรับใช้ตามใจแต่กิเลส จะเป็นผีเป็นเปรตจมอยู่อย่างนี้
  อย่าผิดศีลธรรมต่ำช้าลามก ตายแล้วจะตกลงนรกอเวจี
ถ้าอยู่ในธรรมสร้างแต่กุศล หาบุญใส่ตนทุกวันทุกวี่
ตายแล้วไม่ต้องนิมนต์พระมาสวดกุสลาธรรมมาตายแล้วก็ไปดี
-ดนตรี-
  อย่าเถียงพระพุทธเจ้าผู้ตรัสรู้ญาณว่านรกสวรรค์ บุญ บาปไม่มี…..
สวากขาตธรรมตรัสไว้ชอบแล้ว อย่าทำแปลกแหวกแนวกล้าผยองลองดี…..
  ก่อนที่หลวงตาจะออกมาช่วยชาติ ก็ประพฤติปฏิบัติมานานหลายปี…..
  ได้หลวงปูมั่นเป็นพระอาจารย์สอน ทุกขั้นทุกตอนตามพุทธวิธี
  ถือธุดง ค์วัตรเคร่งครัดพระวินัยอบรมบ่มใจในกลางพงพี
  บางคราวอดข้าว ๗ วัน  ๑๐ วัน  เพื่อห้ำหั่นกับตัณหาราคี
        ถึงแดดจะเผาถึงหนาวจะรุม สัตว์ร้ายชุกชุมไม่หน่ายไม่หนี
นั่งภาวนาจนก้นพองก้นแตก ตั้งใจแต่แรกสิ้นกิเลสชาตินี้
  ไม่ได้มานอนจนเสื่อหมอนแตก แต่กิเลสไม่แหลกเท่าผงธุลี
  กิเลสไม่ตายเราก็พร้อมยอมตาย  ชนะกิเลสไม่ได้ยอมถวายชีวี
-ดนตรี-
  จนได้บรรลุโลกุตรนั่น มรรคผลนิพพาน ซ่านในฤดี…..
สมาธิปัญญาเจิดจ้าสว่างเหมือนฟ้ากระจ่างไร้ก้อนเมฆี…..
  อวิชาลาลับดับสนิท วิสุทธิจิตแจ่มจ้าทันที
สามโลกธาตุสะเทือนเลื่อนลั่น ชาติภพจบกันตั้งแต่บัดนี้
  สิ้นความสงสัยในพระธรรมคำสอน จิตแน่วแน่นอนเกษมเปรมปรี
  ศิโรราบกราบพระพุทธเจ้ากราบแล้วกราบเล่า อัศจรรย์ธรรมนี้ 
  เวลา ๕ ทุ่ม วันที่  ๑๕ เดือนพฤษภาข้างแรมราตรี
พ.ศ.สองพันสี่ร้อยเก้าสิบสามหลังวัดดอยธรรม…เจดีย์
รู้ทุกสิ่งเห็นจริงในธรรม มิได้เพียงจำมาจากคัมภีร์
  จึงได้ออกมานำพี่น้อง ช่วยชาติ อย่างทนง องอาจเมตตาธรรมล้นปรี่…
เศรษฐกิจจะพ้นภัยเพราะไทยทั้งปฐพี มาช่วยชาติคราวนี้จงสุขขีทั่วกันเทอญ

                                           บทพูด รำลึกงานบูชาคุณแผ่นดินไทย ตอนที่ ๒
      ครั้นหลวงตาแสดงพระธรรมเทศนาจบและให้พรเสร็จสรรพ  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัคราชกุมารีเสด็จกลับแล้ว  ขบวนผ้าป่าต่างเข้าแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยพากันทยอยถวายผ้าป่าแด่หลวงตาด้วยศรัทธาอันเปี่ยมจิต  เริ่มต้นด้วยกองผ้าป่าทองคำ เงินบาทและดอลล่าร์ที่ต่างเดินทางมาจากทุกสารทิศ  ล้วนแล้วแต่บรรจงปักธงติดแบงก์ตกแต่งอย่างวิจิตร  ค่อยๆเคลื่อนขบวนไปทีละนิดแลเป็นทิวปลิวไสวไปทั่วท้องสนามหลวงอันกว้างใหญ่นั้น  ทุกคนยกมือท่วมหัวตั้งจิตอธิษฐาน น้อมใจถวายผ้าป่าเป็นมหาทานต่อหน้าท่านหลวงตาบัว  เมื่อเสร็จสิ้นจากการถวายผ้าป่าแล้ว  คณะศิษย์ของหลวงตาได้นำน้ำมนต์จำนวนสองแสนขวดออกมาแจกจ่าย  ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่หลวงตาได้ให้ความเมตตาต่อสาธุชน โดยการอนุญาตให้ทำน้ำมนต์และทุกคนได้รับแจกอย่างทั่วถึงกัน ส่วนทรัพย์สินที่ได้รับจากงานบูชาคุณแผ่นดินในวันนั้น มีดังนี้  ทองคำได้ ๕๒ กิโล ๒๗บาท ๔๘ กรัม  ดอลล่าร์ได้ ๓๐,๐๕๓ ดอลล่าร์  เงินบาทได้  ๑๐,๒๘๒,๖๒๕ บาท  รวมยอดสินทรัพย์นับเป็นมูลค่าทั้งหมด ๓๐,๘๗๕,๐๐๐ บาท ซึ่งหลวงตาจะได้รวบรวมสินทรัพย์ดังกล่าวเข้าคลังหลวงเพื่อช่วยชาติในโอกาสต่อไป  แม้งานบูชาคุณแผ่นดินไทยจะผ่านพ้นไปอย่างงามสง่าและน่าภาคภูมิใจ  ในความสามัคคีและยินดีเสียสละของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า  แต่โครงการช่วยชาติของเราจะยังคงก้าวเดินต่อไป  จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายโดยมีพระศาสนาคือหลวงตาเป็นผู้นำ  เป้าหมายที่ว่านั้นโดยเฉพาะทองคำจะต้องให้ได้อย่างต่ำ   ๔,๐๐๐ กิโลขึ้นไป  มาถึงวันนี้หลวงตาได้มอบทองคำนำเข้าคลังหลวงไปแล้วกว่า ๒,๐๐๐ กิโล หลวงตามหาบัวนี้คือใครอยู่ที่ไหน  จึงขอบอกให้อนุชารุ่นหลังได้ทราบโดยย่อว่าหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโนนั้น  ท่านเกิดและอยู่ที่บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี  ออกบวชตั้งแต่อายุ ๒๑ ปี ได้หมั่นศึกษาพระธรรมคำภีร์จนจบเปรียญ ๓ และนักธรรมชั้นเอก  จากนั้นได้ปลีกวิเวกพากเพียรปฏิบัติธรรมจนจบถึงขั้นวิมุตติหลุดพ้น  เรียกง่ายๆว่าเป็นพระอรหันต์นั่นเอง  อายุของท่าน ณ วันนี้จะเต็ม ๘๘ ปีแล้ว  พอมาถึงปี พ.ศ.๒๕๔๑ ท่านมองเห็นประเทศชาติเกิดวิกฤติจากพิษเศรษฐภัย  จึงได้ออกมาช่วยชาติด้วยเมตตาที่มีอยู่เต็มหัวใจ  หวังพยุงผดุงไทยให้โชติช่วงดังดวงประทีป  เพื่อชุบชีพชูชาติให้ผงาดไพบูลย์เจิดจำรูญพูนสวัสดิ์  นำธรรมรสอันเกิดจากการปฏิบัติ  ออกมาประกาศช่วยชาติอย่างอาจหาญ  ไม่วิตกสะทกสะท้านต่อธาตุขันธ์และการต่อต้านจากสิ่งไหนๆ  มุ่งประโยชน์เหนือสิ่งใดๆ  คือความสงบร่มเย็นใจของชาวไทยทั้งแผ่นดิน  ธรรมค้ำแผ่นดินไม่สูญสิ้นความเป็นไทย  นั่นคือคำขวัญของท่านที่ให้ไว้อันเป็นเครื่องกระตุ้นเตือนใจให้ชาวไทยหันมาทำบุญ  เพื่อเป็นทุนค้ำจุนแผ่นดินไทย

                                      ***************************


Copyright © 2002 - 2003 วัดป่าบ้านตาด ต. บ้านตาด อ. เมือง จ. อุดรธานี 41000
All Rights Reserved.